เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรบริการด้านสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยฟอกเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการปราบปรามแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับโปรเจกต์อาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง โดยล่าสุด FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของยุโรปได้ยึดเว็บไซต์ให้บริการด้านคริปโตที่ชื่อว่า Sinbad
เมื่อเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของทำเนียบขาวกล่าวว่าโปรเจกต์ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือประมาณครึ่งหนึ่งได้รับทุนจากการโจมตีทางไซเบอร์และการโจรกรรมสกุลเงินดิจิทัล พร้อมเสริมว่าทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้มองหาวิธีการใหม่ๆ มาเป็นเวลานานหลายปี เพื่อสกัดกั้นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกขโมย ก่อนที่เกาหลีเหนือจะพยายามแปลงให้เป็นสกุลเงินที่สามารถนำไปซื้ออาวุธ
ข่าวกรองชุดหนึ่งที่นำเสนอต่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าเปียงยางมีการใช้ประโยชน์จากสกุลเงินดิจิทัลและบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนโปรเจกต์เกี่ยวกับอาวุธ ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ได้รับการเปิดเผยโดยประธานาธิบดี Joe Biden
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Sinbad ฟอกเงินที่ได้มาจากการแฮ็กบริษัทคริปโต 3 แห่ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งกล่าวหาว่าขโมยเงินอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ในแต่ละครั้งที่ทำการแฮ็ก
Sinbad คือแพลตฟอร์มที่ให้บริการ “mixing service” ซึ่งบริการในลักษณะนี้สามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปกปิดแหล่งที่มาของสกุลเงินดิจิทัล ทั้งนี้นักวิเคราะห์กล่าวว่าเกาหลีเหนือพึ่งพิงบริการ mixing อย่างหนัก ในขณะเคลื่อนย้ายเงินท่ามกลางการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และที่อื่น ๆ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา การสืบสวนของ CNN ได้เน้นย้ำถึงวิธีที่หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตามคริปโต เพื่อยึดเงินดิจิทัลประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ที่ชาวเกาหลีเหนือขโมยไปจากเหยื่อ
ตามการระบุของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รัฐบาลเกาหลีเหนือยังใช้ผู้มีทักษะด้านไอทีหลายพันคนที่ทำงานในต่างประเทศ ซึ่งบางครั้งปลอมตัวเป็นชาวต่างชาติเพื่อหารายได้อย่างเงียบ ๆ โดยจากการสอบสวนของ CNN มีการเปิดเผยว่าผู้ประกอบการธุรกิจด้านคริปโตรายหนึ่งเคยกล่าวว่าบริษัทของเขาส่งเงินหลายหมื่นดอลลาร์ให้กับพนักงานด้านไอทีของเกาหลีเหนือโดยไม่เจตนา
ที่มา: cnn