El Salvador นั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเปิดรับคริปโตเข้ามาใช้งาน โดยที่ผ่านมาก็มีโปรเจกต์ต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมาย
ล่าสุด เอลซัลวาดอร์ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง USDT ผู้ออกเหรียญ stablecoin อย่าง Tether เปิดตัวโครงการ “Adopting El Salvador Freedom Visa Program”
หรือ พูดง่าย ๆ คือโครงการซื้อ Visa ผ่านการลงทุนด้วยคริปโตนั่นเอง ทางเอลซัลวาดอร์มองว่าตัวโครงการจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของเอลซัลวาดอร์ และทำให้ประเทศตนนั้นเป็นศูนย์กลางในด้าน เทคโนโลยี วัฒนธรรม และ ความก้าวหน้าทางสังคม
โดย กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ถูกตั้งเป้าไว้ว่าเป็น ผู้ที่มีรายได้สูง สนใจที่จะขับเคลื่อนประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม ซึ่ง ตัวโครงการจะจำกัดสิทธิในการเข้าร่วม และรับนักลงทุนที่สนใจเพียงจำนวนแค่ 1,000 คนในการเข้าร่วมโครงการ ส่วน Visa ที่จะได้รับจะเป็นแบบ Residency และอาจกลายเป็น Citizenship ในกรณีที่มีผู้สนใจร่วมลงทุนเป็นจนเต็มเป้าหมายที่ระบุไว้ เอลซัลวาดอร์ จะมีรายได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป
Paolo Ardonio CEO ของ Tether ได้กล่าวว่า “การจับมือเป็นพันธมิตรกับ เอลซัลวาดอร์ นั้นเป็นก้าวสำคัญอีกขึ้นของ Tether ในฐานะผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี โครงการนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเราที่จะส่งเสริม เสรีภาพทางการเงิน รวม ถึงนวัตกรรม ให้กับชุมชน และ เมืองต่างๆ เป็นโอกาสทองที่จะได้นำความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีมากระตุ้นการเติบโต และนวัตกรรมในภูมิภาค บทบาทของเราในการร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการเริ่มการเปลี่ยนแปลง”
จะเห็นได้ว่าบทบาทของ Tether นั้นนอกจากจะมีหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางรากฐาน คอยสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ยังมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยน El Salvador ให้เป็นประเทศต้นแบบในด้าน การท่องเที่ยว และอิสระทางการเงินอีกด้วย
ในด้านของรัฐบาล เอลซัลวาดอร์ เอง รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเอลซัลวาดอร์ Adriana Mira กล่าวว่า “การร่วมมือครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะพัฒนา นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ โดย โครงการนี้จะมอบโอกาสให้ทุกคน สามารถสร้างอนาคตอันสดใสให้แก่ประเทศได้”
การทดลองในโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของเอลซัลวาดอร์ ที่ต้องการจะเป็นผู้นำในด้านคริปโทเคอร์เรนซี นับตั้งแต่การอนุมัติให้ Bitcoin ถูกกฎหมายในการใช้งานภายในประเทศ เมื่อปี 2021
การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการ บูรณาการประชากรของประเทศให้อยู่ในระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ส่งเสริม การมีส่วนร่วมทางการเงิน และการรู้หนังสือซึ่งจะปูทางไปสู่โอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ และ การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ในการเข้าร่วมโครงการ ผู้เข้าร่วมจำเป็นจะต้องทำการลงทุนในรูปแบบของสกุลเงิน Bitcoin หรือ USDT เป็นจำนวน 1 ล้านดอลลาร์จากนั้นระบบถึงจะดำเนินการขอสัญชาติให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งหากเทียบกับภาพในด้านล่างจะเห็นว่าค่าใช้จ่ายในการขอสัญชาติของเอลซัลวาดอร์นั้นถูกกว่าประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาถึง 3 เท่า แต่แพงกว่าประเทศใกล้เคียงในโซนคาบสมุทรแคริบเบียนหลายเท่าตัว
การร่วมมือในการจัดโครงการนวัตกรรมครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่โอกาศในการลงทุนเพียงเท่านั้น แต่ยังจะเป็นส่วนสำคัญที่จะนำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
ที่มา : Beincrypto Coingape