<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารยักษ์ใหญ่ JPMorgan ทำรายงานแฉ Tether (USDT) ! เผยความเสี่ยงที่อาจพังตลาดคริปโต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เผยแพร่รายงานพิเศษเกี่ยวกับ  Tether (  USDT) โดยแสดงความกังวลด้วยเหตุผลบางประการ

ในรายงานล่าสุด นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ที่นำโดย Nikolaos Panigirzoglou  ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับ Tether ที่มีการผูกขาดตลาด  Stablecoin มากขึ้นเรื่อย ๆ 

รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึง ปัญหาที่ขาดการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความโปร่งใสของ Tether โดยระบุว่าการที่ Tether มี Market Share ที่เพิ่มขึ้นในตลาด Stable Coin ถูกมองว่า เป็นผลลบต่อทั้งระบบนิเวศของ stablecoin และระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม

บริษัทที่ผู้ออก Stablecoin กำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งพระราชบัญญัติ “Clarity for Payment Stablecoins Act” กำลังรอการอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันยุโรปเตรียมนำบางส่วนของกฎระเบียบ CryptoAsset Markets (MiCA) มาใช้ในเดือนมิถุนายน 2567

นักวิเคราะห์มองว่า บริษัทที่ดำเนินการ Stablecoin และปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด จะได้รับประโยชน์จากการตรวจสอบด้านกฎระเบียบที่เข้มข้นขึ้นในอนาคต 

CEO ของ Tether อย่าง Paolo Ardoino ได้ออกมาตอบโต้รายงานของ JPMorgan โดยแสดงความยินดีที่ JPMorgan ตระหนักถึงความสำคัญของ Tether และเทคโนโลยี stablecoin ที่บริษัทของเขาสร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าเป็นเรื่องตอแหลที่ JPMorgan ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะมาพูดถึงเรื่อง centralization

Paolo Ardoino อธิบายความสำเร็จ USDT ของ Tether ว่า มาจากสามปัจจัยหลักคือ ความน่าเชื่อถือทางการเงิน , เงินสำรองที่แข็งแกร่ง รวมถึงการมุ่งเน้นตลาดเกิดใหม่และประเทศที่กำลังพัฒนา

บริษัท Circle ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการ Stablecoin ได้ยื่นเอกสารอย่างลับ ๆ ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เพื่อขอนำบริษัทเข้าจดทะเบียน IPO ในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ของ JPMorgan วิเคราะห์ว่า บริษัท Circle ตั้งใจจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และเตรียมพร้อมสำหรับกฎระเบียบด้าน Stablecoin ที่จะเกิดขึ้น

นักวิเคราะห์มองว่า Stablecoin ทำหน้าที่เหมือน “เงินสด” ในโลกคริปโต โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับโลกคริปโต การขยายตัวของ Stablecoin ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ระบบคริปโตจากการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น มีเงินหมุนเวียนในระบบคริปโตมากขึ้น และเพิ่มหลักประกัน ส่งผลให้ระบบการเงินของสกุลเงินดิจิทัลมีความมั่นคงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงข้อเสียที่เกิดจากมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นของ Tether และความไม่แน่นอนในด้านกฎระเบียบ

ที่มา : Bitcoin Sistemi