Michael Saylor ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท MicroStrategy ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการ CNBC ว่ากองทุน Bitcoin ETF ยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก หลังจากที่ถูกปิดกั้นมานานกว่าทศวรรษ
“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้คนต่อรอคอยการมาของ Bitcoin ETF และในที่สุดนักลงทุนกระแสหลักก็สามารถที่จะเข้าถึง Bitcoin ได้แล้ว ซึ่งผมคิดว่าสิ่งนี้จะผลักดันให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในสินทรัพย์มากขึ้น”
นอกจากนี้ ในการให้สัมภาษณ์ Saylor ยังได้เปิดเผยว่า MicroStrategy กำลังที่จะเปลี่ยนโฉมบริษัทให้กลายเป็นบริษัทพัฒนา Bitcoin โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดมาจากการที่บริษัทประสบความสำเร็จใน ฐานะผู้ถือ Bitcoin ที่ซื้อขายในตลาดที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในโลก
โดยทาง Saylor เน้นย้ำว่า พวกเขาจะยังคงพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างกระแสเงินสด และใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อสะสม Bitcoin ให้มากขึ้นเพื่อผู้ถือหุ้นทุกคน รวมถึงส่งเสริมการเติบโตของเครือข่าย Bitcoin อีกด้วย
“Bitcoin เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เป็นนวัตกรรมใหม่ ดิจิทัล ระดับโลก มีเอกลักษณ์ และไม่มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยงแบบดั้งเดิม นั่นจึงทำให้มันเป็นส่วนเสริมตามธรรมชาติของพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนที่มีความรับผิดชอบ”
Michael Saylor
ในช่วงเวลาเดียวกัน ราคา Bitcoin ก็ได้เพิ่มขึ้นมาแตะ 50,000 ดอลลาร์อีกครั้ง นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มหันมาสนใจใน Bitcoin มากขึ้น พร้อมกับความคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม MicroStrategy ก็ยังยังคงทยอยที่จะสะสม Bitcoin ต่อไป โดยเมื่อเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาพวกเขาได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 31,755 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้พวกเขามี Bitcoin มากถึง 190,000 BTC
“เราได้รับ Bitcoins เพิ่มขึ้น 31,755 BTC นับตั้งแต่สิ้นสุดไตรมาสที่สามของปี 2023 ซึ่งถือเป็นการสะสม Bitcoin รายไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเป็นไตรมาสที่ 13 ติดต่อกันของการเพิ่ม Bitcoin ในงบดุลของเรา”
ที่มา: CryptoNews