เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา รายการ อะไรอีกกับอิก TAM-EIG ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ของ คุณลุงโฉลก สัมพันธารักษ์ นักลงทุนและวิทยากรด้านการลงทุนชื่อดังของไทย โดยในคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ คุณลุงโฉลกได้เผยมุมมองเกี่ยวกับราคา Bitcoin ว่ามีโอกาสพุ่งขึ้นถึงหลักล้านดอลลาร์หรือไม่
สำหรับมุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin นั้น ลุงโฉลกได้ชี้ให้เห็นถึง หน่วยของสกุลเงินที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งราคา Bitcoin ที่จะพุ่งไปถึงหลักล้านดอลลาร์ และแนวทางในการปรับพอร์ตการลงทุน รวมถึงจุดการเข้าซื้อ-ขาย Bitcoin
ซึ่งในตอนนี้ราคา Bitcoin อยู่ที่ 71,892 ดอลลาร์ ยังคง ATH อยู่ ถึงแม้ว่าราคาจะเริ่มย่อลงนิดนึงจากจุดสูงสุดของเมื่อวานนี้ แต่ก็ถือว่า Bitcoin ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดี คนเริ่มให้ความสนใจ หลายคนพูดถึงราคา Bitcoin จะพุ่งไปถึงหลักแสน แต่เริ่มมีคนบางส่วนพูดถึงราคา Bitcoin ที่จะพุ่งขึ้นไปถึงหลักล้านดอลลาร์
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึง มุมมองด้านราคา Bitcoin ว่า การพุ่งขึ้นถึงหลักล้านดอลลาร์เกินไปไหม มีโอกาสได้ลุ้นอยู่ไหมครับ ?
ลุงโฉลกกล่าวว่า “ลุงก็พูดเรื่อย ๆ นะเรื่องราคาหลักล้าน คนก็หาว่าลุงพูดเล่น อาจารย์ตั้มก็หาว่าลุงกาว มันล้านแน่ ๆ มันไม่ใช่หลักล้านเพราะ Bitcoin ขึ้น แต่ราคา Bitcoin จะพุ่งไปถึงหลักล้าน เพราะเงินดอลลาร์มันหมดค่า
เพราะฉะนั้นราคา Bitcoin จะขึ้นไปกี่ดอลลาร์ก็ตาม มันไม่ใช่เพราะ Bitcoin มันขึ้นหรอก มันเท่าเดิม แต่ว่าดอลลาร์มันเสื่อมค่าลง เราเห็นว่าในที่สุดจะเป็นล้านดอลลาร์ มันไม่เป็นหรอก เพราะจริง ๆ เมื่อถึงวันนั้น เงินดอลลาร์มันไม่มีแล้ว มันกลายเป็นอย่างอื่น อาจจะเปลี่ยนสกุลเป็นอย่างอื่น จากดอลลาร์ เป็นปอนด์ (Pound) ของอังกฤษ อันนี้อาจเป็น ยูโร (EUR) , สเตอร์ลิง (GBP) อะไรก็ว่ากันไป แต่ไม่มีครับ มันจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไป เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่นไป”
ลุงโฉลกได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับสกุลเงินของไทย โดยกล่าวว่า “เหมือนเงินไทยอะ เมื่อก่อนเป็นเฟื้อง เป็นไพ แล้วก็มาเป็นอัฐ เป็นฬส อัฐส่วนแปด ฬสส่วนสิบหก แล้วต่อมาเป็นเหรียญสตางค์เหรียญแรกนะ ตอนลุงเป็นเด็กมาก ๆ เลยนะ มันครึ่งสตางค์นะ แต่ที่น่าสนใจ เราใช้เลขไทยไม่ใช้เลขอารบิก 1 ส่วน 2 สตางค์ ซึ่งต่อมามันขึ้น กลายเป็นเหรียญ 1 สตางค์ แล้วกลายเป็น 2 สตางค์ อินเฟซทีละ 100% แล้วก็เป็น 2 สตางค์ครึ่ง แล้วก็เป็น 4 แล้วก็เป็น 5 เนี่ย มันก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตอนนี้สตางค์ไม่มีละ เป็นบาท ซึ่งตอนที่เป็นบาท 50 สตางค์นี่เป็นธนบัตรนะ ใบละ 50 สตางค์ เป็นต้น ข้าวแกงจานหนึ่งเท่าเดิม แต่หน่วยมันเปลี่ยนไปมาก งั้น Bitcoin ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกครับ ถ้าหน่วยมันไม่เปลี่ยนนะ
ยังไงก็ได้เห็นล้านดอลลาร์ แต่หน่วยมันจะเปลี่ยนครับ ทีนี้ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปรูปแบบใด ทฤษฎีเดิมของเรายังใช้ได้เสมอ เพราะฉะนั้นดูทฤษฎีที่เราคุยไปเรื่อย ๆ พอถึงเวลาก็เอาไปปรับใช้กับตลาดตอนนั้นด้วย ก็ไม่มีอะไรหรอก ล้านดอลลาร์ไปยังงั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอกครับ ”
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามต่อถึงเป้าราคา Bitcoin รอบนี้ที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างชันอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจจะรู้สึกว่า รอบนี้ของจริงหรือเปล่า แต่ในขณะที่ลังเล ราคามันก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ พอกราฟมันชันแบบนี้ มันน่าจะมีจังหวะที่ราคาถอยลงมา รับคนตกรถหน่อยไหมครับ หรือรอบนี้ไปแล้วไปเลย ?
ลุงโฉลกกล่าวว่า “คำตอบคือว่า ยังไงเราก็สบายใจ ยิ้ม ปลอดภัย เพราะเราทำตามระบบถูกต้องตั้งแต่แรก เรื่องการซื้อตอนที่ราคาลงไปต่ำ แล้วในอนาคตราคามันขึ้นไปสูง ๆ ก็ขาย มันเป็นเรื่องธรรมดา แค่ตาไม่บอดสี ทำไมคนทำกันไม่ได้ ตอนหลังถึงมาเห็น มันเป็นเพราะความโลภ กับความกลัว เข้ามา ทำให้ตัดสินใจผิดหมด mindset มันเสีย
เพราะงั้นดู Bitcoin ตอนนี้ มันขึ้นต่อ เราก็ดีใจ เราก็กำไรอีก กำไรไม่ต้องนับ นับไม่ไหวแล้ว คุณจะนับกำไรยังไง ตั้งแต่ตอนที่มันลงมาต่ำตรงนี้
ลุงโฉลกชี้เมาส์ไปที่เลข 2 พร้อมกล่าวว่า “จุดซื้อมันอยู่ตรงนี้ เขียวๆ จะนับกำไรยังไง ไม่รู้ จะนับยังไง กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะฉะนั้นที่อยากพูดคือ เรียนเถอะครับ ลุงสอนไม่เคยกั๊กว่าอะไรเป็นอะไร เพราะอะไร เข้ามายังไง จนถึงปัจจุบัน กำไรเยอะแยะไปหมด”
ลุงโฉลกอธิบายต่อถึงการเข้าซื้อ Bitcoin ในฐานะนักเล่นหุ้น ถ้าไม่ได้เข้าจากราคากราฟข้างล่าง แต่เข้าตอนที่ราคา Bitcoin เริ่มสูงแล้วจะทำยังไง
ลุงโฉลกให้คำแนะนำว่า “ถ้ามีกำไร หาทางออกซะ เพราะคุณเข้าไม่ถูกจุด ออกแล้วไปนั่งเฉย ๆ เอาเวลาไปเรียนซะว่าระบบมันคืออะไร การเข้า เข้าได้กี่วิธี ยังไงบ้าง มีข้อดียังไง ข้อเสียยังไง ใช้ในสถานการณ์ยังไง จนเข้าใจดีแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ ตลาดไม่หนีไปไหน เมื่อเข้าใจดีแล้ว ก็เข้าไปใหม่ ทีนี้เข้าให้ถูกทาง ถูกวิธี ถูกหลักการ
ดังนั้นคนที่ไม่ได้ทำตามระบบถึงตรงนี้ ยังไงมันก็เสี่ยง เพราะคุณไม่มีระบบ คำแนะนำคือให้ take profit ไปซะ แล้วนั่งเฉย ๆ ไปเรียนให้คล่อง ในขณะที่ศึกษาแล้วอยากเล่นอยู่อีก สามารถทำได้ แต่ลดพอร์ตลง สมมติพอร์ตหนึ่ง เต็มที่มี Bitcoin 2 BTC ก็ให้เหลือ 1 bitcoin แล้วเปลี่ยนเป็นซัก 0.1 ได้ไหมไม่เกิน คือลดขนาดพอร์ตลง
ลุงโฉลกอธิบายต่อว่า “สมมติเงินลงทุนเป็นเงินบาทละกัน จะลงทุนในพอร์ตนี้มูลค่าสิบล้านบาท เล่นซื้อขายได้แต่ลงทุนให้เหลือแค่พอร์ตราคาแสนบาทได้ไหม เพราะมันเสียแน่ ก็ไม่เป็นไรก็เสียไป เราก็เรียนต่อไปเรื่อย ๆ จากการเสียในครั้งนี้
เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่เข้าใจระบบ take profit ออกไปก่อน แล้วกลับเข้ามาใหม่ แต่ลดขนาดพอร์ตลง ให้เหลือซักแสนนึงก็พอ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปเรียนซะว่าระบบการเทรดมันเป็นยังไง มันต้องทำยังไง เตรียมตัวยังไง เข้ายังไง เพราะอะไร stop loss ตรงไหน Position sizing ได้เป็น position size เท่าไหร่ ไม่ใช่ over trend เข้ามาก็พังหมด
พอได้จุดเข้าเรียบร้อยแล้ว ก็จุดระหว่างทาง ตรงไหนแพนิค ตรงไหนไม่แพนิค พอมันขึ้นไปแล้วลงมา แตะเส้นบนนี้ก็ไม่ควรจะแพนิคอะไร เพราะมันต้องลงแตะทะลุเส้นล่างถึงจะเริ่มน่าเป็นห่วง แล้วถ้าลงลึกเป็นแดงก็ค่อย Stop loss อะไรก็ว่ากันไป
พอเรามีหลักการแบบนี้ พอราคามันลงมาแล้ว แถมยังรู้อีกว่าขาขึ้น เมื่อกราฟลงมาแตะเส้น ถือเป็นจุดซื้อเพิ่ม
ในขาลงเมื่อมันกะดกขึ้นไปแตะเส้นไปเป็นจุดขาย
ลงมาอีก กระกดขึ้นไป แตะเส้นจุดขาย คือมันขึ้นไปแตะเส้นนี้เป็นจุดขาย
ส่วนตอนนี้กราฟมันเป็นขาขึ้น ถ้ามันลงมาแตะเส้นก็เป็นจุดซื้อ ก็เอาอย่างงี้ไปก่อน เล่นเล็ก ๆ ไปก่อน เอาเวลาไปเรียนรู้ซะ ระบบมันทำงานยังไง เข้าให้ถูกต้องตามระบบ เข้าแล้วปฏิบัติตัวสถานะที่เข้าตามระบบ”
ลุงโฉลกกล่าวอีกว่า “ สำหรับจุดขายที่จะออก จะออกตามระบบยังไง การออกตามระบบคือ พอมันขึ้นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันต้องมีสัญญาณแมงเม่า มันต้องมีการทุ่มซื้อสุดตัวเกิดขึ้นที่ท็อป
การเปิด gap ของ Bitcoin ซึ่งไม่มี มีแต่เป็น blackwhite แล้วก็มีอัตราเร่งสูงขึ้น ตอนนั้นค่อยเป็นห่วง ตอนนี้เริ่มมีอัตราเร่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ชันอะไร ถ้ามันขึ้นชันมาก ให้เริ่มระวังตัวได้
สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้เริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วใช้เงินลงทุนน้อย ๆ จากนั้นเอาเวลามาศึกษาเรื่องการเทรดเรื่องหนึ่ง เรื่อง Bitcoin ก็ได้ หรือ เรื่อง Altcoin ก็ได้ เรื่อง compettity future แล้วอีกเรื่องคือ Bitcoin เรารู้เพื่อที่จะวางแผนถูกว่าเราควรจะทำอะไร”
สุดท้ายนี้ลุงโฉลกกล่าวว่า “สำหรับ Bitcoin คาดว่า ราคามันจะขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไร เพราะไม่มีวี่แววว่ามันจะมีปัญหาอะไร ก็คาดว่าจะไปอีกเรื่อย ๆ ใน long term ราคาหลักล้านคงได้เห็น เดิมเราคิดว่าราคา bitcoin ล้านบาทด้วยซ้ำ ก็เห็นไปแล้ว เลยไปแล้ว ทีนี้พอบอกราคา bitcoin ไปล้านดอลลาร์ ใคร ๆ ก็บอกว่า กาว แต่เดี๋ยวยังไงก็ถึง”
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา : TAM-EIG