<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เปิดโปงนรกแห่งการลงทุนคริปโต ! มิจฉาชีพหลอกลวงทุนเหยื่อคริปโต 2 คดีสูญเงินกว่า 45 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดีอี เปิดสถิติ 5 วัน รับแจ้งคดีออนไลน์จำนวน 4,565 เรื่อง มูลค่าเสียหายรวม 568 ล้านบาท เฉพาะการหลอกลงทุนในการเทรดคริปโต 2 เคส สูญเงิน 45 ล้านบาท

วันนี้ (20 มี.ค.2567) น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอี) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 11-15 มี.ค.2567 Thai Police Online รับแจ้งคดีออนไลน์ทั้งหมด 4,565 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 568,744,075 บาท

จากการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือศูนย์ AOC 1441 ประชาชนถูกหลอกลวงผ่านเครือข่ายออนไลน์ในหลายรูปแบบ มีจำนวน 5 คดี

คดีที่ 1 หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ มูลค่าความเสียหาย 14,000 บาท โดยผู้เสียหายซื้อสินค้ารถจักรยานยนต์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และโอนเงินดังกล่าวไป หลังจากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อร้านค้าได้อีก

คดีที่ 2 หลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าความเสียหาย 17,476,000 บาท โดยผู้เสียหายได้ถูกชักชวนให้โอนเงินลงทุนเทรดคริปโต อ้างผลตอบแทนได้กำไรสูง โดยให้โอนเงินลงทุนเรื่อย ๆ ตามคำแนะนำ แต่เมื่อต้องการถอนเงิน กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้

คดีที่ 3 หลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) มูลค่าความเสียหาย 1,583,400 บาท โดยผู้เสียหายรู้จักพูดคุยกับมิจฉาชีพผ่านช่องทาง X ใช้ชื่อว่า “Honey” รูปภาพโปรไฟล์เพศหญิง รูปร่างดี สีผิวขาว ผมยาว (แต่ปิดบังใบหน้า) โพสต์ข้อความเดือดร้อนเงินทางการศึกษา และรายได้ของครอบครัวไม่เพียงพอ ผู้เสียหายเกิดความสงสาร จึงได้โอนเงินไปให้

คดีที่ 4 หลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ มูลค่าความเสียหาย 1,025,203 บาท โดยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาผู้เสียหาย แจ้งว่าเงินในบัญชีของผู้เสียหายได้มาโดยผิดกฎหมาย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน จำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และกรอกข้อมูลยืนยันจากลิงก์ที่ส่งมาให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินและกรอกยืนยันข้อมูลดังกล่าวไป ภายหลังผู้เสียหายเช็คยอดเงินในบัญชี พบว่าได้ถูกโอนออกไปจากบัญชี

คดีที่ 5 หลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าความเสียหาย 28,300,000 บาท โดยผู้เสียหายได้รู้จักมิจฉาชีพผ่านแอปพลิเคชันทางไลน์ ชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดคริปโต อ้างผลตอบแทนได้กำไรสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินไปตามที่มิจฉาชีพแนะนำ พอจะถอนเงินออกมาใช้ กลับไม่สามารถอนได้ และมิจฉาชีพแจ้งผู้เสียหายว่า หากจะถอนเงินออกมาใช้ ให้โอนเงินไปเพื่อเป็นค่าปรับ แต่ผู้เสียหายไม่ได้โอนไป จึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

“เตือนภัยประชาชน งดรับสายจากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า ที่เข้ามาทักทายและขอเป็นเพื่อนผ่านสื่อโซเชียล”

ที่มา : Thai PBS