<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ลาบูบู้’ ปะทะ ‘เหรียญมีมคริปโต’ : อินฟลูฯ ผู้เป็นตัวกำหนดความนิยมและผลกระทบต่อราคา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในโลกที่กระแสความนิยมแปรผันไปตามการกระทำของผู้มีอิทธิพล “ลาบูบู้” กลายเป็นตัวอย่างล่าสุดของ “อาร์ตทอย” (Art Toy) ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและราคาพุ่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากที่ “ลิซ่า” ศิลปินชื่อดังระดับโลกได้ถ่ายเซลฟี่กับมัน ลาบูบู้ไม่ใช่เพียงของเล่นธรรมดา แต่เป็นผลงานศิลปะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตและมีเอกลักษณ์ ทำให้มันกลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในงานศิลปะทั่วโลก

การที่ลิซ่า อินฟลูที่ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนผู้ติดตามกว่า 102 ล้านคนบนโซเชียลมีเดีย ได้โพสต์รูปถ่ายที่เธอถือลาบูบู้ ทำให้ความนิยมและราคาของลาบูบู้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาพที่ดูเหมือนเรียบง่ายนี้ได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความต้องการในตลาด สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจของอินฟลูเอนเซอร์ในยุคสมัยนี้

ที่มาภาพ : lalalalisa_m

การพุ่งขึ้นของราคาลาบูบู้นี้เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในการศึกษาปรากฏการณ์ของ “วัฒนธรรมไวรัล” ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตลาดและค่านิยมของสินค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผู้คนจำนวนไม่น้อยพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อครอบครองสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นที่นิยมหรือมีค่าในช่วงเวลาหนึ่ง

เปรียบเทียบกับการปั่นราคาเหรียญคริปโตและเหรียญมีม

การประกาศข่าวหรือการโปรโมตจากอินฟลูเอนเซอร์ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อตลาดอาร์ตทอยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดคริปโตเคอเรนซี่และเหรียญมีมด้วย ในโลกของคริปโตเคอเรนซี่ การที่นักพัฒนาหรือบุคคลที่มีอิทธิพลโพสต์หรือพูดถึงเหรียญเฉพาะบางเหรียญอาจทำให้ราคาของเหรียญนั้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยกตัวอย่างเช่นเหรียญมีม  Dogecoin เมื่อมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยติดอันดับโลกอย่าง Elon Musk ออกมาโพสต์หรือพูดถึง ตัวเหรียญราคาของเหรียญ Dogecoin ในตลาดก็พร้อมที่จะพุ่งขึ้นสอดคล้องการเคลื่อนไหวกับมหาเศรษฐีผู้นี้ทันที

เหตุการณ์นี้สามารถเปรียบเทียบได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลาบูบู้ โดยที่ความนิยมและความต้องการที่เพิ่มขึ้นมาจากการรับรองของเหล่าอินฟลูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งสองกรณีจะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของผลกระทบจากการโปรโมตโดยบุคคลที่มีอิทธิพล แต่ก็มีความแตกต่างอย่างมากในแง่ของความยั่งยืนและความเสี่ยง ตลาดคริปโตเคอเรนซี่และเหรียญมีมมีความผันผวนสูงและมักจะได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์และการเก็งกำไรมากกว่าความเชื่อมั่นในคุณค่าพื้นฐาน ในทางตรงกันข้าม ความนิยมของอาร์ตทอยเช่นลาบูบู้อาจมีพื้นฐานมาจากคุณค่าทางศิลปะและความประณีตในการสร้างสรรค์ ซึ่งอาจช่วยให้ราคาและความต้องการมีความยั่งยืนมากกว่า

สรุป

การที่ลาบูบู้กลายเป็นอาร์ตทอยที่ได้รับความนิยมและราคาพุ่งสูงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงอำนาจของอินฟลูเอนเซอร์ในยุคดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังเป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจในการศึกษาปรากฏการณ์ของวัฒนธรรมไวรัลและการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในสังคม อย่างไรก็ตามการเปรียบเทียบกับตลาดคริปโตเคอเรนซี่และเหรียญมีมแสดงให้เห็นว่าความนิยมที่ได้มาอาจมีพื้นฐานและผลกระทบที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งต้องการการเข้าใจอย่างลึกซึ้งและการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ