ในวันนี้ ราคา Solana (SOL) ได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ แตะระดับ 162.40 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 เมษายน ซึ่งลดลง 19.8% ภายใน 10 วันตรงกับช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index – CPI) ประกาศออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 3.5%
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพด้านราคาของ SOL ทั้งเรื่องปัญหาของเครือข่ายในการจัดการกับจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น , ความสนใจในโทเค็น Solana SPL ลดลง รวมไปถึงการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไปในตลาดอนุพันธ์ (derivatives)
การปรับฐานของ SOL: เหตุการณ์เฉพาะในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
แม้ว่าราคาของ Solana (SOL) จะสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 168 ดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญเมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่ SOL ยังคงเป็นเหรียญที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเหรียญอื่น ๆ ในกลุ่ม 15 อันดับแรกของตลาดในกรอบ TF 1 สัปดาห์ เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพ SOL มีผลการดำเนินงานด้อยกว่าคู่แข่งหลักอย่าง BNB อยู่ที่ 14% และ Ethereum อยู่ที่ 13% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า แรงกดดันขาลงของ SOL น่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับแนวโน้มของตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม
มีบางความเห็นระบุว่า ราคา SOL ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและร่วงลงอย่างรวดเร็ว เกิดจากความต้องการที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งมาจากกระแสของเหรียญมีม และการแจก Airdrop ของโทเค็นบน Solana SPL ล่าสุด
แทนที่จะมองแค่ปัจจัยที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ความเห็นเหล่านี้ชี้ว่า การปรับตัวลงของราคา SOL เมื่อวันที่ 10 เมษายน น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มขาลงในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ล้มเหลวที่ราคาจะทะลุระดับ 200 ดอลลาร์ ในวันที่ 31 มีนาคม
Andre Cronje ผู้สร้างเครือข่าย Fantom ตีความเรื่องความแออัดของ Solana ว่า เป็นตัวบ่งชี้ถึงความต้องการพื้นที่บล็อกที่เพิ่มขึ้น โดยให้เหตุผลว่า ความล้มเหลวในการทำธุรกรรมครั้งล่าสุด และปัญหาด้านประสิทธิภาพไม่ควรถูกมองว่า เป็นข้อบกพร่องทางเทคนิค
ซึ่ง Andre Cronje แนะนำว่า เครือข่าย Solana ประสบปัญหาที่อาจกล่าวได้ว่าเกิดจากความสำเร็จของตัวมันเอง เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้น โดย Solana Labs ได้ประกาศแก้ไขบั๊กเบื้องต้น ซึ่งมีกำหนดการปรับใช้ในวันที่ 15 เมษายน เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว
ที่มา : cointelegraph