ราคา Bitcoin ร่วงลงแรง หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นแตะระดับ 63,500 ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวังและความเห็นเชิงเข้มงวดจาก Lori Logan ประธานธนาคารกลางแห่งดัลลัส (เฟดสาขา ดัลลัส) เป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อราคา Bitcoin โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนพฤษภาคม ลดลงสู่ 67.4 จาก 77.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 76.0 อย่างมาก
และสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือ ความคาดหวังเงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จากเดิม 3.2% ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ที่ 3.2% เมื่อเพียงสัปดาห์ที่แล้ว Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงปฏิเสธความกังวลในภาวะเงินเฟ้อ โดยระบุว่า เขาไม่ได้เห็นสัญญาณของภาวะ ‘เงินฝืด’ (stag) หรือ ‘เงินเฟ้อ’ (flation)
ทางด้าน Logan ประธานเฟดสาขา ดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า มี “ความไม่แน่นอน” เกี่ยวกับว่านโยบายปัจจุบันของเฟดเข้มงวดเพียงพอหรือไม่ และยังกล่าวถึง “ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
ข่าวสารดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น ในขณะเดียวกัน ราคา Bitcoin ลดลงอย่างรวดเร็ว ครั้งหนึ่งร่วงลงมากกว่า 4% จากจุดสูงสุดของวันมาอยู่ที่ 60,700 ดอลลาร์ ขณะที่รายงานข่าวนี้ ราคาปรับตัวขึ้นเล็กน้อยแตะ 61,000 ดอลลาร์ ซึ่งลดลง 0.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ที่มา: coindesk