ตลาดคริปโตเคอเรนซีกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เปิดเผยออกมา ซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาโทเค็น AI พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ถึงแม้ตลาดคริปโตเคอเรนซีจะเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่โทเค็น AI สามารถกลับมาดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้อีกครั้ง โดยมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการพุ่งขึ้นของราคาโทเค็น และความสนใจของนักลงทุนในโทเค็น AI
ราคาโทเค็น AI พุ่งทะยาน กำไรสองหลัก
หลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ถูกเผยแพร่ ราคา Bitcoin ก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ altcoin หลายตัวมีราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเฉพาะโทเค็น AI ซึ่งเป็นหนึ่งในโทเค็นกลุ่มที่ราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า หมวดหมู่ AI และ Big Data ราคามีการเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่า 11% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ราคาโทเค็นที่พุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้โทเค็นเหล่านี้สามารถลบตัวเลขขาดทุนที่เกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ออกไปได้หมด ส่งผลให้โทเค็นเหล่านี้มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายโดยรวมของโทเค็นเหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 34% อีกด้วย
โทเค็น AI ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา:
- Near Protocol (NEAR) ราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 16% จากราคา 6.9 ดอลลาร์ไปเป็น 8.05 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดในรอบเกือบสองเดือน การเคลื่อนไหวของราคา NEAR ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่า ราคาอาจกำลังพุ่งผ่านระดับสูงสุดที่ 8.8 ดอลลาร์ ในวันที่ 15 มีนาคม
- The Graph (GRT) ราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 14% จากราคา 0.26 ดอลลาร์ ไปเป็น 0.30 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก IntoTheBlock มีเพียง 56% ของผู้ถือเหรียญที่ยังอยู่ในโซนกำไร และอีก 62% เป็นผู้ถือครองเหรียญในระยะยาว ดังนั้น ราคาของ GRT อาจจะไม่ลดลงแรงในช่วงสัปดาห์หน้า
- โทเค็นด้าน AI และ Big Data อีกตัวที่ราคาพุ่งขึ้นคือ Bittensor (TAO) โดยราคาเพิ่มขึ้น 14.1% ในขณะเดียวกัน Echelon Prime (PRIME) ก็เป็นอีกหนึ่งโทเค็นที่ราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่ม AI โดยราคาเพิ่มขึ้น 17% จากราคา 13.89 ดอลลาร์ เป็นประมาณ 16.29 ดอลลาร์
- โทเค็น AI อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา:
สาเหตุสำหรับที่ทำให้ราคาโทเค็น AI เพิ่มขึ้น มากกว่าเหรียญคริปโตประเภทอื่น ๆ ได้แก่:
- นักลงทุนคาดหวังว่า NVIDIA จะรายงานผลประกอบการเชิงบวก ซึ่งจะหนุนราคาหุ้นและส่งผลดีต่อโทเค็น AI โดยรวม
- OpenAI แยกทางกับอดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ Ilya Sutskever ซึ่งมีรายงานว่าเขามีบทบาทสำคัญในการกดดันให้อดีต CEO Sam Altman ลาออกเมื่อเดือนพฤศจิกายน
- Open AI เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง GPT-4o ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การติดตามผลประกอบการของ NVIDIA ที่จะประกาศออกมาเร็วๆ นี้ เนื่องจากผลประกอบการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของราคาโทเค็นในหมวดหมู่ AI และ Big Data ทั้งหมด
ที่มา : fxstreet