นักวิเคราะห์คริปโตเคอเรนซีชี้ว่า มี 2 เหตุผลที่เป็นไปได้ว่า ทำไมราคาของ ETH ถึงยังไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีการอนุมัติกองทุน Spot Ether ETF
แม้จะมีการอนุมัติกองทุน Spot Ether ETF เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา แต่ราคาของ Ethereum กลับแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อาจมีสาเหตุหลักอยู่สองประการ
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ได้อนุมัติกองทุน Spot Ether ETF จำนวน 8 กองทุน ให้สามารถซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องได้ แม้จะมีข่าวดีดังกล่าว แต่ราคา Ether กลับลดลง 3.4% ก่อนที่จะมีการประกาศ หลังจากนั้นราคาจึงฟื้นตัวขึ้นประมาณ 5% และปัจจุบันราคา Ether กำลังซื้อขายอยู่ที่ 3,806 ดอลลาร์
Zach Rynes นักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีชี้ว่า การที่ราคาแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่ว่า “คนที่อยากซื้อ Ether เพราะข่าวการอนุมัติ ETF น่าจะซื้อกันไปหมดแล้ว“
ราคา Ether พุ่งสูงขึ้นแล้ว 29% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) อาจเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับการอนุมัติกองทุน ETF
นักวิเคราะห์ Rynes และอีกหลาย ๆ คน ยังมองว่า แม้กองทุน ETF เหล่านี้จะได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังต้องรอการอนุมัติเอกสาร S-1 ซึ่งเป็นเอกสารที่ครอบคลุมรายละเอียดข้อมูลทางการเงินและโปรไฟล์ความเสี่ยงของบริษัท รวมถึงรายละเอียดของหลักทรัพย์ที่กองทุนเสนอขาย
บริษัท VanEck เพิ่งยื่นเอกสาร S-1 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระบวนการอนุมัติ S-1 ฉบับใหม่นี้ อาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรืออาจจะนานถึงหลายเดือน
นักวิเคราะห์ Rynes มองว่า แรงขับเคลื่อนราคา Ether ครั้งสำคัญครั้งต่อไปน่าจะมาจากเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF เหล่านี้ เมื่อกองทุนเริ่มเปิดซื้อขาย
รายงานของ Rynes ระบุว่า “กองทุน ETF เหล่านี้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างแท้จริง ดังนั้น เงินลงทุนใหม่ที่ไหลเข้าสุทธิยังคงรออยู่” โดยบริษัทวิจัยด้านคริปโตอย่าง Second Mountain ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การอนุมัติกองทุน ETF อาจไม่ส่งผลให้ราคา Ether ปรับตัวขึ้นอย่างทันที
ราคาของ Bitcoin ลดลง 15% หลังจากที่กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติสำหรับการซื้อขายในวันที่ 10 มกราคม ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า Bitcoin ต้องใช้เวลา 30 วัน กว่าราคาจะพุ่งขึ้น 30% เป็น 51,870 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลอย่างต่อเนื่องว่า การประกาศแผนการของ Grayscale ในการแปลง Grayscale Ethereum Trust (ETHE) ให้เป็น Ether ETF อาจส่งผลให้เกิดเม็ดเงินไหลออกอย่างมีนัยสำคัญ คล้ายกับกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) หลังจากได้รับอนุมัติ Spot Bitcoin ETFs ในเดือนมกราคม
นักเทรดคริปโตที่ชื่อ Rho Rider โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม โดยเตือนว่า
“Grayscale เพิ่งยื่นเอกสารจดทะเบียน ETHE ใหม่ หลังจากที่เคยถอนออกไปก่อนหน้านี้ จำกรณีเงินทุนไหลออกจากกองทุน GBTC ได้ไหม? ตอนนี้มี ETH มูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ติดอยู่ในนั้นมานานถึง 7 ปีแล้ว”
นับตั้งแต่กองทุน Spot Bitcoin ETF เริ่มซื้อขายในวันที่ 11 มกราคม กองทุน GBTC ได้สูญเสียเงินลงทุนไหลออกไปทั้งหมด 17.6 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงตามข้อมูล Farside
Ether ยังถูกตีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง
นักวิชาการอิสระอย่าง Sassal กล่าวเสริมว่า “ETH ถูกประเมินราคาต่ำกว่ามูลค่าจริงอย่างน่าขัน” โดยให้เหตุผลว่า ตลาดมีเวลาเพียงแค่สามวันในการ “ปรับเปลี่ยนราคาของ ETH เพื่อสะท้อนการอนุมัติกองทุน ETF”
อีเธอร์เพิ่มขึ้น 17.51% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ที่มา: CoinMarketCap
ที่มา : cointelegraph