เมื่อไม่นานมานี้ CEO คนปัจจุบันของ Ripple อย่าง Brad Garlinghouse ได้ออกมาเปิดเผยถึงก้าวสำคัญของบริษัทในการผลักดันโลกเข้าสู่ยุคสกุลเงินดิจิทัล ด้วยการจับมือกับรัฐบาลกว่า 10 ประเทศเพื่อร่วมกันพัฒนา Central Bank Digital Currencies (CBDCs) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง
การจับมือร่วมกันครั้งนี้จะเป็นการหยิบยืมขุมพลังบล็อกเชนและเทคโนโลยีของ Ripple ในการสร้างและจัดการเงินสกุลดังกล่าว เป็นการนำคริปโตเข้ามาแก้ไขปัญหาในเรื่องของระบบการเงินดั้งเดิม
Garlinghouse กล่าวว่าขณะนี้ทางบริษัทได้มีการจับมือกับรัฐบาลกว่า 10 ประเทศทั่วโลก และตัวเขาเองมองว่า CBDC นั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจาก Stablecoins ที่ถูกออกโดยรัฐบาล ทั้งนี้จาก 10 ประเทศที่ได้มีการกล่าวมามีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่ามีความร่วมมือกับ Ripple ได้แก่
1. ประเทศภูฏาน
ทาง Ripple ได้ร่วมมือกับภูฏานมาตั้งแต่ปี 2021 โดยนอกจากจะมาช่วยวางรากฐาน CBDC แล้วทาง Ripple ยังเล็งที่จะใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบข้ามพรมแดนในประเทศอีกด้วย และโปรเจกต์ดังกล่าวนี้จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกันกับ XRP Ledger ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการขยายขนาด และใช้พลังงานน้อย
2. สาธารณรัฐปาเลา
ประเทศปาเลานั้นเป็นประเทศเล็ก ๆ ประกอบไปด้วยหลายหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทวีปโอเชียเนีย มีพรมแดนใกล้เคียงกับฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และเช่นเดียวกันกับภูฏาน ทางปาเลาได้ร่วมมือกับ Ripple มาตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขณะที่ยังทำหน้าที่ใกล้เคียงกันกับ stablecoin ทำให้โปรเจกต์นี้มีความพิเศษมากกว่าการเป็น CBDC เหมือนประเทศอื่น ๆ
3. ประเทศมอนเตเนโกร
มอนเตเนโกรเป็นประเทศแถบบอลข่าน ที่ได้มีการจับมือกับ Ripple ในปี 2023 เพื่อสร้าง CBDC โดยหวังว่าจะเข้ามาทำให้ระบบการเงินภายในประเทศมีความก้าวหน้าและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
4. ประเทศจอร์เจีย
สำหรับจอร์เจียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของตุรกี และรัสเซียนั้นได้ร่วมมือกับทาง Ripple ในปี 2023 เพื่อทดลองการใช้งานสกุลเงิน Digital Lari และความสามารถของเทคโนโลยีที่ Ripple นั้นครอบครอง ซึ่งโปรเจกต์ดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศในด้านการเงินด้วยเช่นกัน
5. ประเทศโคลอมเบีย
ประเทศสุดท้ายที่เปิดเผยว่ามีการร่วมมือกันกับ Ripple คือโคลอมเบียซึ่งตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ โดยความร่วมมือนี้เป็นการจับมือระหว่างบริษัทและธนาคารกลางโดยตรง เพื่อศึกษาหาวิธีใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยพัฒนาการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ภายในประเทศ
อย่างไรก็ตามยังมีอีก 5 ประเทศที่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยความร่วมมือระหว่าง Ripple อย่างเป็นทางการ และปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าประเทศเหล่านี้นั้นเป็นประเทศเล็ก ๆ หรือประเทศใหญ่ที่มีบทบาททางการเงินในระดับโลก
- ที่มา : Bitcoinist
- ภาพ : Coinmarketcap