<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข้อมูลเผยตลาดเหรียญมีมมาแรง ! ครองแชมป์กำไรสูงสุดในครึ่งแรกของปี 2567

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่าภาคส่วนเกมบล็อกเชน, การเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) และแพลตฟอร์มเลเยอร์ 2 จะยังคงเติบโต แต่ก็ตามหลังภาคส่วนที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ และกระแสความนิยมของเหรียญมีมในปัจจุบัน

ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ภาคส่วนที่ทำกำไรได้มากที่สุดในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 คือ เหรียญมีม และภาคส่วนใหม่ ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น โดยกวาดกำไรไปได้เป็นส่วนใหญ่

ตามข้อมูลจาก BitEye, CoinGecko และ Wu Blockchain พบว่า เหรียญมีมเป็นผู้นำการแข่งขันในด้านผลตอบแทนที่น่าทึ่งถึง 1,834% นับตั้งแต่ต้นปี 2024

ในอันดับสองคือ ภาคส่วนโทเค็นดิจิทัลที่อ้างอิงสินทรัพย์จริง (real-world asset tokenization) ซึ่งสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอยู่ที่ 214% , โครงการบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยผลตอบแทน 72% เช่นเดียวกับเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานกายภาพแบบกระจายศูนย์ (decentralized physical infrastructure networks: DePIN) ที่ทำผลตอบแทนอยู่ที่ 59%

ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดย ETH มีกำไรสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 50% และ Bitcoin มีกำไรอยู่ที่ประมาณ 45%

นอกจากนี้ ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของแพลตฟอร์ม Layer-1 อยู่ที่ 43% ในขณะที่ภาคส่วน อย่างเกมและการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) แม้จะตามหลังกลุ่มอื่น ๆ แต่ก็ยังคงทำกำไรได้ที่ 19% และ 3% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ภาคส่วน Layer-2 กลับประสบกับภาวะขาดทุนอย่างเห็นได้ชัด โดยมีมูลค่าขาดทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 41%

ผลกำไรจำแนกตามภาคส่วนของคริปโตเคอเรนซี แหล่งที่มา: BitEye, Wu Blockchain

กระแสความคลั่งไคล้เหรียญมีม

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเหรียญมีม อาจมีสาเหตุมาจากเครือข่าย Solana บางส่วน ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีการสร้างโปรเจกต์โทเค็นใหม่บนบล็อกเชน Solana มากกว่า 541,000 โปรเจกต์

บรรดาเหล่าเซเลบริตี้และอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์หลายราย เช่น Andrew Tate, rapper Lil Pump และ Iggy Azalea ต่างก็กระโดดเข้าร่วมกระแสบนเครือข่ายโซลาน่าด้วยการเปิดตัวเหรียญมีมของตัวเอง  อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์เหล่านี้หลายราย ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมการซื้อขายข้อมูลภายใน (insider trading) และในบางกรณีก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลโกงปั่นราคา (pump-and-dump schemes)

Solana ได้รับฉายาว่า “MacOS ของบล็อกเชน” จาก Pantera Capital บริษัทเงินทุนด้านคริปโตเคอเรนซีชื่อดัง  ฉายานี้สื่อถึงการที่ Solana มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและใช้งานโทเค็น รวมถึงสัญญา smart contract ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

ที่มา : cointelegraph