ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan ได้เผยแพร่รายงานวิจัยที่คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนสิงหาคม แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาลงที่รุนแรง แต่ JPMorgan ก็ยังมองเห็นโอกาสที่ดีในอนาคต
ประเด็นสำคัญในรายงานของ JPMorgan มีการคาดการณ์ว่า การขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อ liquidations ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตอย่างหนัก น่าจะสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคมนี้
ธนาคาร JPMorgan ได้ปรับประมาณการกระแสเงินสดสุทธิจาก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 8 พันล้านดอลลาร์ การปรับเปลี่ยนนี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มและข้อมูลล่าสุด ทำให้เห็นภาพของสภาวะตลาดปัจจุบันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
บริษัทยอมรับว่า มีการประมาณการครั้งก่อนไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือว่ามองในแง่ดีเกินไป เมื่อเทียบกับสถานการณ์ โดยชี้ให้เห็นว่า ราคาของ Bitcoin นั้นสูงกว่าต้นทุนการผลิต และแม้กระทั่งราคาทองคำ ทำให้การตั้งราคา 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นั้นไม่สมจริง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 8 พันล้านดอลลาร์ ที่ JPMorgan ประมาณการ สะท้อนถึงมุมมองที่ยึดติดกับความเป็นจริงมากขึ้นในการประเมินตลาด Bitcoin ซึ่งต่างจากช่วงที่ตลาดคึกคัก
ในขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ 56,878 ดอลลาร์ ลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ที่ 73,737 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
กราฟ Bitcoin ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีทั้งรูปแบบ “double top” และ “double bottom” ปรากฏขึ้นจำนวนเท่า ๆ กัน ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะลังเลของตลาดจากทั้งฝั่งขาขึ้นและฝั่งขาลงที่มีโอกาสเท่าๆกัน ยังไม่มีฝ่ายไหนจะชนะ และสามารถกำหนดทิศทางของราคาได้อย่างชัดเจน
ที่มา: TradingView
เครื่องมือวัดแรงขายและแรงซื้ออย่าง OBV Oscillator กำลังแสดง ค่าติดลบ ซึ่งบ่งบอกว่า แรงขาย กำลังมีอำนาจเหนือกว่าแรงซื้ออยู่ในขณะนี้
โดยเส้น MACD ก็กำลังเคลื่อนที่ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ (Signal Line) โดยทั้งคู่ต่างติดอยู่ในโซนค่าติดลบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของขาลงที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 ที่เป็นระดับกลาง โดยสามารถวัดได้ที่ 36.69 ซึ่งเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคเหล่านี้ ชี้ไปในทางเดียวกันว่า แนวโน้มขาลงน่าจะยังคงดำเนินต่อไป
หากราคา Bitcoin ไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านเบื้องต้นที่ 60,000 ดอลลาร์ได้ อาจจะเห็นราคาร่วงลงต่อไปอีกเพื่อทดสอบแนวรับที่ 53,000 ดอลลาร์
OBV และ MACD มีค่าติดลบอยู่ แสดงว่า แรงขายยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคา Bitcoin มีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวรับที่ต่ำลงอีก ถ้า Bitcoin ต้องการกลับตัวเป็นขาขึ้น ราคาจะต้องทะลุแนวต้าน 60,000 ดอลลาร์ และยืนเหนือระดับนี้ไปอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน แต่หากเกิดการตัดกันของเส้น MACD ขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ ควบคู่ไปกับค่า RSI ที่เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับกลาง รวมถึงมีปริมาณการซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ก็อาจเป็นไปได้ที่ราคา Bitcoin จะกลับตัวเป็นขาขึ้นและพุ่งไปทดสอบแถบ Fibonacci ด้านบนที่ประมาณ 76,000 ดอลลาร์
- ที่มา : cryptopolitan
- ที่มารูปภาพ : bitcoinsistemi