- บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุน คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
ตลาดคริปโตกลับมาครึกครื้นอีกครั้งหลังจาก Bitcoin กลับมาพุ่งทะลุ 60,000 ดอลลาร์ พร้อมกับการฟื้นตัวของเหรียญอื่น ๆ ในตลาดคริปโต
เหรียญมีมก็ไม่น้อยหน้า และตัวหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเหรียญมีมใหม่อย่าง Base Dawgz โดยเหรียญ DAWGZ เป็นเหรียญมีมคริปโต Multi-chain ที่ทำยอดโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น ทะลุ 2.5 ล้านดอลลาร์แล้ว
ความสำเร็จนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับชุมชน Base Dawgz และเป็นการย้ำถึงความทะเยอทะยานในการมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม ของการซื้อขายเหรียญมีม ซึ่งทำให้หลายคนคาดการณ์ว่า Base Dawgz จะกลายเป็นเหรียญมีมในตำนานตัวต่อไป
การผจญภัยบน Multi-chain
Base Dawgz นำเอาเทคโนโลยี Multi-chain มาปฏิวัติวงการเหรียญมีม แม้ว่าจะมีเครือข่ายหลักอยู่บน Base แต่ก็สามารถทำงานข้ามเชนได้ทั้งเครือข่าย Ethereum, Solana, Binance Smart Chain, และ Avalanche
สิ่งนี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงตลาดแบบกระจายอำนาจได้อย่างอิสระและยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ๆ ของเครือข่ายบล็อกเชน
เครือข่าย Solana และ Ethereum ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งเหรียญมีมตัวท็อปอยู่แล้ว โทเค็นดังๆ อย่าง Pepe, Dogwifhat, Bonk และ Floki ต่างก็ทำยอดซื้อขายทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์
บล็อกเชน Base ของ Base Dawgz เองก็ไม่น้อยหน้า เหรียญมีมตัวท็อปของเครือข่ายอย่าง Brett ก็เพิ่งมี Market Cap แตะ 1 พันล้านดอลลาร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ และติดอันดับ 1 ใน 10 เหรียญมีมที่มี Market Cap มากที่สุด
สำหรับผู้ที่กังวลถึงความปลอดภัย คุณสามารถสบายใจได้ เพราะ Base Dawgz ได้รับการตรวจสอบแล้วจาก Solid Proof และไม่พบช่องโหว่ใด ๆ
เหตุผลหลักที่ทำให้ Base Dawgz ประสบความสำเร็จในช่วง Presale และทำยอดไปกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ มาจากความสามารถในการทำงานข้ามเครือข่าย บน 5 เครือข่ายหลักดังที่กล่าวไป อย่างไรก็ตาม มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ควรพูดถึง นั่นคือรางวัลจำนวนมหาศาล
ปลดล็อครางวัลกับ $DAWGZ
โทเค็น $DAGWZ มีจุดเด่นคือ การนำมีมหมายอดนิยมมาใช้กับฟีเจอร์การทำงานข้ามเชน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนและมอบรางวัลตอบแทนแก่สมาชิก Base Dawgz ได้เปิดตัวแคมเปญ Airdrop สุดล้ำ
หลังจากเชื่อมต่อบัญชีโซเชียลมีเดียแล้ว ผู้เข้าร่วมสามารถรับแต้มได้โดยการสร้างและแชร์มีม รวมถึงเนื้อหาอื่นๆ ที่เป็นการเฉลิมฉลองให้กับเส้นทางของโปรเจกต์ และในช่วงหลังของโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น สามารถนำแต้มเหล่านี้มารีดีมเป็นโทเค็น $DAWGZ ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโปรแกรมการแนะนำเพื่อน ซึ่งผู้แนะนำจะได้รับ 10% ของจำนวนการซื้อโทเค็นที่จ่ายเป็น USDT นับว่าแจกให้กับสมาชิกชุมชนกันแบบไม่อั้นเลยทีเดียว
จำกัดเวลาการเข้าร่วม Base Dawgz
นักลงทุนที่สนใจจะเข้าร่วมโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น Base Dawgz สามารถซื้อโทเค็น $DAWGZ ได้ด้วยคริปโตและ stablecoin หลายสกุล
Base Dawgz จัดสรรโทเค็น 20% จากอุปทานทั้งหมดไว้สำหรับช่วงแรก ซึ่งคิดเป็น 1.6 พันล้านโทเค็น โดยมีกำหนดซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ต่อการทำธุรกรรม 1 ครั้ง และเมื่อความต้องการเพิ่มมากขึ้น ราคาโทเค็นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าการระดมทุน จะสิ้นสุดลง ดังนั้นผู้ที่ซื้อก่อนจะได้ราคาที่ถูกกว่า โดยเฉพาะในช่วงก่อนที่ Base Dawgz จะเข้าจดทะเบียนในกระดานแลกเปลี่ยนหลายแห่ง
นักลงทุนสามารถ stake โทเค็นได้ตั้งแต่ช่วงแรก ด้วยอัตราผลตอบแทนต่อปีที่มากกว่า 1,600% ซึ่งการ stake ถือเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด ในระหว่างรอให้การระดมทุน สิ้นสุดลง
ขณะนี้การ stake สามารถทำได้บนเครือข่าย Ethereum แต่ทีมผู้พัฒนาวางแผนที่จะเพิ่ม Solana เข้าไปด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การทำงานหลายเครือข่าย
มีการแบ่งโทเค็นไว้สำหรับโปรแกรมการแจกจ่ายรางวัลจากการ Stake อยู่ที่ 20% ของอุปทานโทเค็นทั้งหมด ซึ่งเท่ากับ 1.69 พันล้านโทเค็น
โดยโปรแกรมนี้มีจุดประสงค์เพื่อมอบรางวัลแก่ผู้ที่สนับสนุนตั้งแต่เนิ่น ๆ และสร้างแรงจูงใจให้คนเข้ามามีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Base Dawgz ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโปรเจกต์ในอนาคต
อนาคตของ Base Dawgz จะเป็นอย่างไรต่อ
แผนงานของโปรเจกต์ Base Dawgz จะแบ่งเป็น 4 เฟส โดยการเปิดตัว $DAWGZ จะเป็นเฟสที่ 1
ในเฟสที่ 2 จะครอบคลุมถึงความพยายามทางการตลาด ในการขยายชุมชนและบัญชีโซเชียล ทั้งทาง X และ Telegram
เฟสที่ 3 จะเป็นช่วงสิ้นสุดของการระดมทุน และตามมาด้วยการจดทะเบียนเข้ากระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) ส่วนในเฟสสุดท้ายก็จะโฟกัสไปที่การจดทะเบียนเข้ากระดานเทรดแบบรวมอำนาจ (CEX) รวมไปถึงการเติบโตของชุมชนผ่านการตลาด
หลังจากที่การระดมทุน แตะ 2.5 ล้านดอลลาร์แล้ว Base Dawgz ก็อาจกลายเป็นหนึ่งในเหรียญมีมคริปโตที่น่าลงทุนที่สุดตัวต่อไป ในขณะที่โปรเจกต์ที่คล้ายกันอย่าง Dogeverse ก็เพิ่งทำยอดไปกว่า 15 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าขณะนี้คนมุ่งหันมาสนใจโทเค็นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานข้ามเครือข่ายและขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของชุมชน
หากสนใจสามารถศึกษาข้อมูลของโปรเจค Base Dawgz และการระดมทุน ได้ที่นี่
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์