ดูเหมือนว่าในขณะที่แนวโน้มราคา Bitcoin กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะได้มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลังประเทศจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักหลายรายการ ซึ่งถือเป็นก้าวที่ “สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเป็นอย่างมาก”
โดยรายงานจาก Reuters ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ได้ยืนยันว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบ reverse repo 7 วันลง 0.1% เหลือ 1.7% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบ loan prime (LPR) 1 ปีและ 5 ปีก็ปรับลดตามไปด้วย
“การปรับลดในวันนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 2 ตลอดจนการเรียกร้องให้ ‘บรรลุเป้าหมายการเติบโตในปีนี้’ โดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3”
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้ Holger Zchaepitz นักวิจารณ์ตลาดได้ออกมากล่าวว่าเกือบหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
“ตลาดหุ้นจีนไม่ค่อยคึกคักนัก”
ซึ่งการที่จีนลดอัตราดอกเบี้ยนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ตามรายงานของ Cointelegraph สหรัฐฯ ยังต้องเดินตามจีนและยุโรปในการเริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่าสิ่งนี้จะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม TMXC Trades ซึ่งเป็นนักวิจารณ์ด้านสกุลเงินดิจิทัลและมหภาคชื่อดัง เล็งเห็นว่าสหรัฐฯ ใช้ท่าทีอนุรักษนิยมมากขึ้น โดยแนะนำว่าการลดอัตราดอกเบี้ยบางส่วนของจีนจะไม่ได้ผลตามต่อประเทศอื่นๆ มากนัก
“เมื่อเข้าสู่ปี 2024 เทรดเดอร์ต่างเดิมพันกับวงจรการผ่อนคลายทั่วโลกที่ประสานงานกันครั้งใหญ่ (หลังจากที่พวกเขาประเมินการปรับขึ้นต่ำเกินไปโดยสิ้นเชิง) ซึ่งจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้นกลับทิศทาง ทว่าในวันนี้ แทบจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย”
แม้ว่าเราจะยังไม่ได้เห็นการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แต่ราคา Bitcoin กลับกำลังบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น โดยเทรดเดอร์ Rekt Capital ชี้ว่าราคาอาจพุ่งขึ้นไปใกล้จุดสูงสุดตลอดกาลได้ภายใน 2 เดือนต่อจากนี้
“การลดลงใดๆ เพื่อทดสอบระดับ 65,000 ดอลลาร์อีกครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่โดยทั่วไปแล้วการปิดรายสัปดาห์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนการขึ้นไปที่ระดับ 71,500 ดอลลาร์”
ในขณะที่ Van de Poppe นักวิเคราะห์ระดับตำนานระบุว่าช่วงราคาที่ 65,000 ดอลลาร์เป็นระดับสำคัญที่ต้องรักษาไว้เพื่อเป็นแนวรับต่อไป ที่ประมาณ 61,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง
“หากสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เราก็ควรจะเดินหน้าต่อเพื่อไปสู่ ATH”
ที่มา: Cointelegraph