<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำความรู้จักกับ DePIN เทคโนโลยีใหม่ของโลกบล็อกเชนที่หลายคนอาจมองข้าม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่เทคโนโลยี บล็อกเชน กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับโลกการเงิน DeFi หรือ การเงินแบบกระจายอำนาจ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ยังมีอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ DePIN หรือ Decentralized Physical Infrastructure Networks

DePIN คืออะไร? 

DePIN เป็นคำย่อมาจาก “decentralized physical infrastructure networks” แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้บล็อกเชนเพื่อกระจายอำนาจการควบคุมและความเป็นเจ้าของในโครงสร้างพื้นฐานบนโลกจริง ในปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากในวงการของบล็อกเชน 

ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เทคโนโลยีดังกล่าวคือ การใช้บล็อกเชนในการรันและดูแล hardware จริง ๆ ของเหล่าเครือข่ายกระจายศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์, โครงสร้างพื้นฐานแบบ wireless, สายพลังงาน, และอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่นผู้ใช้สามารถเปิดให้คนอื่น ๆ เข้ามายืมอุปกรณ์ที่ตนเองครอบครองอยู่ โดยที่ตัวของผู้ปล่อยเช่าจะได้สิ่งตอบแทนเป็นโทเค็นดิจิทัล วิธีการนี้ทำให้ตัวของ DePIN นั้นถูกพัฒนาจากล่างขึ้นบนแทนที่จะเป็นแบบบนลงล่าง หรือก็คือผู้ใช้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเครือข่ายได้ เพราะไม่จำเป็นต้องหวังพึ่งพานายทุนใหญ่เหมือนแต่ก่อน

ในปัจจุบันผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ มักจะเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความรวมศูนย์อยู่มาก ซึ่ง DePIN จะเข้ามาเปลี่ยนตรงจุดนั้นและสร้างเครือข่ายแบบ Peer-to-Peer (P2P) ขึ้นมาที่ให้ผู้ใช้กับผู้ใช้ติดต่อกันได้โดยตรงไม่ต้องไปผ่านหน่วยงานส่วนกลาง

ตัวอย่างของโปรเจกต์ DePIN

แม้ว่าตัวของ DePIN จะยังไม่ได้เป็นที่สนใจมากเท่าเซคเตอร์อื่น ๆ ในขณะนี้แต่ก็ได้มีโปรเจกต์มากมายได้เริ่มเข้ามาศึกษาใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวบ้างแล้วเช่น

Arweave : บริการฝากไฟล์แบบกระจายศูนย์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถแชร์พื้นที่เก็บข้อมูลใน disk กับผู้ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมาก ๆ 

Render : แพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถยืม GPU ของผู้ใช้อื่นมาทำงานจำพวกกราฟฟิค หรือ visual effects ได้

Helium : เครือข่าย Internet of things (IoT) ที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์ hotspots หรืออินเทอร์เน็ตไร้สายให้กับผู้อื่นและได้รับรางวัลตอบแทน

DIMO : เครือข่ายที่ให้ผู้มียานพาหนะสามารถใช้งายรวมถึงหารายได้จากข้อมูลที่เก็บได้จากการใช้งานยานพาหนะของตน

อนาคตของ DePIN

ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนหลายคนมองว่า DePIN มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลก เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างที่ระบบดั้งเดิมไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น ปัญหาความล้าหลังของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาความปลอดภัยของข้อมูล และปัญหาค่าใช้จ่ายที่สูง

โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า DePIN มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต และทำงานของเรา ในอนาคต เราอาจใช้ DePIN ในการแบ่งปันทรัพยากร เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูล พลังงาน หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ DePIN อาจถูกนำไปใช้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น

  • การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ: DePIN สามารถช่วยพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์อัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อถึงกัน
  • การจัดการห่วงโซ่อุปทาน: DePIN สามารถช่วยจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยติดตามสินค้า และบริการ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
  • การให้บริการสาธารณะ: DePIN สามารถช่วยให้บริการสาธารณะ เช่น การศึกษา สาธารณสุข และบริการขนส่ง

อย่างไรก็ตาม แม้ DePIN จะเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจแต่มันก็ยังต้องประสบปัญหาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาการเติบโตและการขยายขนาด ซึ่งเป็นเรื่องที่เหรียญคริปโต L1 กำลังเผชิญอยู่ ไปจนถึงการถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบถ้าหากเครือข่ายการฝากไฟล์แบบกระจายศูนย์ถูกใช้ในการเก็บไฟล์ที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น 


ที่มา : Decrypt