ท่ามกลางราคา Bitcoin ที่กำลังเผชิญหน้ากับแนวโน้มขาลงในตอนนี้ นักวิเคราะห์ Bitcoin ชื่อดังอย่าง Willy Woo ก็ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าราคาเหรียญจะสามารถพุ่งขึ้นไปทำ “ราคาสูงสุด” ได้สูงถึง 700,000 ดอลลาร์ พร้อมแนะนำให้เก็บเอาไว้ในพอร์ตโฟลิโออย่างน้อย 3%
“แม้ว่า BTC จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการลงทุนประเภทนี้ แต่ Fidelity แนะนำให้จัดสรร 1-3% ในขณะที่ BlackRock แนะนำให้จัดสรรสูงถึง 85% ซึ่งหากเราถือว่าการจัดสรร 3% ถือเป็นการจัดสรรที่สมเหตุสมผล เนื่องจาก Bitcoin มีราคาประเมินต่ำที่สุดอยู่ที่ประมาณ 700,000 ดอลลาร์”
โดยการคำนวณของ Woo นั้นได้อิงตามมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปจุดสูงสุด Woo ชี้ว่าจำนวนการนำไปใช้จะต้องทะลุ 16% ไปให้ได้
ซึ่งจากกราฟจะเห็นได้ว่า Bitcoin จะต้องใช้เวลาถึง 15 ปีจึงได้รับการยอมรับจากประชากรโลก 4.7% ทว่าอัตราการยอมรับ Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นได้กราฟเดินตามเส้นทางเดียวกับการยอมรับของอินเทอร์เน็ต ที่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจาก 15 ปีแรก
“16% คือกระแสส่วนใหญ่ในช่วงแรก และ 50% คือกระแสส่วนใหญ่ในช่วงหลัง การบริหารความมั่งคั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในภาคส่วนนี้ ดังนั้นให้จับตามองว่าจำนวนการนำ BTC มาใช้หรือเส้นสีเหลืองนี้จะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ช่วง 16%-50% เมื่อใด”
แม้ว่าการวิเคราะห์ดังกล่าวจะแสดงมุมมองในเชิงบวก แต่ราคา Bitcoin ในปัจจุบันยังคงห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 73,750 ดอลลาร์ถึง 12% โดยมีราคาซื้อขาย ณ เวลาที่เขียนอยู่นี้อยู่ที่ 64,465 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของ Bitstamp
ในขณะที่ทางด้านของกองทุน Spot ETF แม้ว่าจะไม่มีเงินไหลออกจำนวนมาก แต่แนวโน้มในปัจจุบันนั้นยังคงเป็นกลางซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ไม่สามารถสร้างโมเมนตัมขาขึ้นได้
ตามข้อมูลของ Farside Investors กองทุน Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้าเพียง 300,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ในขณะที่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมามีการไหลออกสุทธิสะสมมากกว่า 18.3 ล้านดอลลาร์
ซึ่งเราก็คงต้องมาจับตาดูกันต่อไปว่า Bitcoin จะสามารถกลับขึ้นมาเป็นตลาดกระทิงได้ไหมในปีนี้ ทั้งนี้บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph