<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ส่องคำสแลงสัตว์ในโลกการลงทุน ! นอกจาก ‘หมี’ และ ‘กระทิง’ ยังมีสัตว์ตัวไหนอีกบ้าง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในโลกของการลงทุนเรามักจะเคยได้ยินคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เป็นชื่อสัตว์ต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลก ซึ่งคำที่เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อย ๆ คือ Bull (กระทิง), Bear (หมี) และ Whale (วาฬ) แต่ทราบหรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วยังมีคำศัพท์อื่น ๆ อีกมากที่นำชื่อสัตว์มาใช้สื่อความหมาย ซึ่งบทความนี้จะพาทุกท่านมาดูกันว่าจะมีสัตว์ตัวไหนอีกบ้าง

Bull และ Bear คำศัพท์สุดคลาสสิก

พูดได้เต็มปากเลยว่าคำศัพท์จากสัตว์ทั้งสองถูกใช้กันอย่างแพร่หลายกันในปัจจุบัน หลายคนอาจคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง เช่น Bull (กระทิง) จะหมายถึงตลาดขาขึ้น ในขณะที่ Bear (หมี) หมายถึงตลาดขาลง โดยที่มาของคำดังกล่าวมาจากพฤติกรรมของการโจมตีที่กระทิงจะขวิดขึ้น ขณะที่หมีจะตะปบลง

ทั้งนี้ คำทั้งสองยังสามารถใช้สื่ออารมณ์ของนักเทรดได้อีกด้วย ถ้า Bullish ก็หมายความว่ากระแสดีน่าซื้อ ขณะที่ Bearish คือไม่ค่อยรุ่งควรเทขาย

Black Swan หงส์ดำแห่งหายนะ

ถัดมากับคำศัพท์ยอดนิยมลำดับรองลงมาอย่าง Black Swan ซึ่งตัวของมันจะหมายถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง และไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อย ๆ เช่นวิกฤติ Covid เป็นต้น

กระต่าย-ฉลาม-หมาป่า

สัตว์ทั้งสามตัวที่ได้ระบุไว้ข้างตนคือคุณลักษณะของนักเทรดที่มีความตื่นตัว เน้นเกมรุกซึ่งศัพท์แต่ละคำก็จะมีความหมายต่างกันเล็กน้อย

  • กระต่าย (Rabbit) หมายถึง นักเทรดที่ชอบทำกำไรระยะสั้นกระโดดไปมาเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว ผ่านการเปิดปิดตำแหน่งการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
  • ฉลาม (Shark) หมายถึง นักเทรดที่มีความเก่งกาจดุดัน สามารถหาจังหวะทำกำไรจากตลาดได้ในขณะที่คนอื่นทำไมได้ ซึ่งคำนี้จะดังที่สุดจากการนำไปตั้งชื่อรายการฮิต Shark Tank
  • หมาป่า (Wolves) ใกล้เคียงกับฉลาม แต่จะเป็นการสื่อถึงนักเทรดที่เฝ้ามองจังหวะคอยฉวยโอกาสเพื่อทำกำไรได้ก่อนใครเพื่อน

เต่า-วาฬ-ช้าง

ต่อมาจะเป็นคำศัพท์ที่ใช้สื่อถึงคนหัวเก่าและบุคคลที่มีความสำคัญต่อตลาดโดยที่

  • เต่า (Turtle) หมายถึง นักลงทุนที่ไม่ชอบความรวดเร็ว เน้นการเติบโตและการทำกำไรในระยะยาว โดยจะให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงเป็นลำดับต้น ๆ 
  • วาฬ (Whale) หมายถึง นักลงทุนกระเป๋าหนัก หรือเจ้ามือที่มีเงินทุนมหาศาล ซึ่งความเคลื่อนไหวของพวกเขามักจะทำให้ตลาดต้องสั่นสะเทือนได้แทบจะทันที
  • ช้าง (Elephant) หมายถึง นักลงทุนระดับสถาบัน หรือบริษัทต่าง ๆ ที่มีมูลค่าตลาดมหาศาล

แกะ-นกกระจอกเทศ-เหยี่ยว-พิราบ-ยูนิคอร์น

ส่วนสุดท้ายจะเป็นชื่อสัตว์ที่ไม่สามารถจำแนกเข้าพวกได้ ซึ่งแต่ละคำจะมีความหมายที่ต่างกันไปดังนี้

  • แกะ (Sheep) หมายถึง ผู้ที่เคลื่อนไหวตามกระแสของกลุ่มคน ซึ่งภาษาไทยเรียกง่ายๆ ว่า “แมลงเม่า” นั่นเอง
  • นกกระจอกเทศ (Ostriches) หมายถึงนักเทรดที่เลือกลงทุนในสินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งโดยไม่สนใจข้อมูลข่าวสาร และไม่แคร์ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร
  • เหยี่ยว (Hawks) หมายถึง กลุ่มคนที่ชื่นชอบนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด เช่นอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น ขณะที่ พิราบ (Doves) หมายถึง คนที่ชอบนโยบายทางการเงินแบบผ่อนปรน 
  • ยูนิคอร์น (Unicorn) หมายถึง ธุรกิจ startups ที่มีมูลค่าหลักพันล้าน ซึ่งการมาของบริษัทเหล่านี้จะเข้ามาป่วนตลาดที่มีอยู่เดิม และเติบโตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งการที่ใช้ยูนิคอร์นนั้นสื่อถึงความหายากของมันที่นาน ๆ ที่จะเจอสักครั้ง

อย่างไรก็ตามนักลงทุนไม่จำเป็นต้องจำศัพท์เหล่านี้ทั้งหมดเพื่อทำการลงทุน และนี่อาจจะไม่ใช่คำแสลงทั้งหมดก็เป็นได้เนื่องจากภาษาเป็นสิ่งที่วิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลา และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นสัตว์อื่น ๆ ถูกพูดถึงในโลกการลงทุนด้วยเช่นกัน


ที่มา : dailyhodl