MetaMask บริษัทผู้ให้บริการคริปโต Wallet ได้ประกาศจับมือกับ Mastercard และ Baanx เพื่อเปิดตัว MetaMask Card ซึ่งเป็นโซลูชั่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายคริปโตเคอร์เรนซีจากกระเป๋าเงิน MetaMask ของตนได้โดยตรง
โดยปกติแล้ว การใช้คริปโตในการซื้อสินค้าทั่วไปเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการโอนคริปโตไปยังกระดานเทรดก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสกุลเงินธรรมดา และโอนเงินนั้นไปยังบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมก่อนจะทำการซื้อ
ซึ่ง Consensys ที่เป็นบริษัทแม่ของ MetaMask ได้ระบุว่า บัตรเดบิตนี้สามารถทำให้ผู้ใช้จ่ายคริปโตที่เก็บไว้ในกระเป๋า MetaMask ของพวกเขาเพื่อซื้อสินค้าที่รับ Mastercard ได้โดยตรง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้คริปโตในการชำระเงินสำหรับทุกอย่าง ตั้งแต่ของชำไปจนถึงการช็อปปิ้งออนไลน์
ในขณะที่ Lorenzo Santos ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Consensys ได้ออกมากล่าวว่า บัตรนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมช่องว่างระหว่างบล็อกเชนและระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม
“MetaMask Card เป็นก้าวสำคัญในการขจัดอุปสรรคที่มีอยู่ระหว่างบล็อกเชนและการชำระเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มอบประโยชน์ของทั้งสองโลก”
นอกจากนี้บัตรยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ความปลอดภัยและความเร็วในการทำธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านเครือข่าย Linea ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ยังคงควบคุมคริปโตของตนผ่านกระเป๋าเงิน MetaMask wfhจนกว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์
ซึ่ง Raj Dhamodharan รองประธานบริหารที่ Mastercard ได้กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการทำธุรกรรมสำหรับผู้ใช้ Wallet คริปโต
“เราเห็นโอกาสที่สำคัญในการทำให้การซื้อสินค้าสำหรับผู้ใช้กระเป๋าเงินแบบ Self-custody ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และทำงานร่วมกันได้มากขึ้น”
โดยในปัจจุบัน MetaMask Card กำลังอยู่ในระยะทดลองโดยมีการแจกจ่ายบัตรดิจิทัลให้กับผู้ใช้ใน EU และ UK ในจำนวนจำกัด และมีแผนจะขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซึ่ง Simon Jones หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าของ Baanx ได้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงทางการเงินโดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีประชากรที่ไม่มีบัญชีธนาคารจำนวนมาก
“เรากำลังสร้างวิสัยทัศน์เพื่อให้ทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐานได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะส่งผลใหญ่ในประเทศที่มีประชากรไม่มีบัญชีธนาคารหรือมีบัญชีธนาคารไม่ครบถ้วนในจำนวนมาก”
ที่มา: CryptoBriefing