โปรเจกต์ Launchpad เปิดตัวเหรียญมีมคอยน์บน Solana ชื่อ pump.fun ได้สร้างรายได้สูงถึง 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ารายได้รายวันของโปรโตคอลอื่นๆ ที่ทำรายได้สูงสุด 24 โปรโตคอลรวมกัน
ในวันเดียวกัน pump.fun สร้างรายได้รวมทั้งหมด 5.33 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ารายได้จากเครือข่ายบล็อกเชนที่มีชื่อเสียงอย่าง Tron, Ethereum, Solana และ Uniswap ที่สร้างรายได้ที่ 1.3 ล้านดอลลาร์ ,6.8 แสนดอลลาร์ , 5.7 แสนดอลลาร์ และ 5.2 แสนดอลลาร์ ตามลำดับ
จากข้อมูลของ DefiLlama ระบุว่า pump.fun ได้สร้างรายได้รายวันมากกว่ารายได้ของโปรโตคอลอื่นๆ ที่ทำรายได้สูงสุด 24 โปรโตคอลรวมกันภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
แพลตฟอร์ม Pump.fun สร้างรายได้โดยการเก็บค่าธรรมเนียม 1% จากการซื้อขายทุกครั้งที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม
แต่ทว่า Pump.fun นั้น ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากนักวิเคราะห์ตลาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลายคนกล่าวหาว่าโปรเจกต์นี้กำลัง “ฆ่า” เหรียญมีมเนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้ผู้สร้างเหรียญสามารถเปิดตัวเหรียญใหม่ได้ในราคาต่ำสุดเพียง $2 เท่านั้น
ขณะที่โปรเจกต์ Pump.fun ได้ตอบกลับคำกล่าวหานี้ โดยการโอ้อวดว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาเปิดตัวเหรียญใหม่ได้มากถึง 10,000 เหรียญภายในระยะเวลาเพียงสามชั่วโมง ระหว่างการสนทนาใน X spaces ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์
ในวันที่ 9 สิงหาคม Pump.fun ได้ประกาศว่า พวกเขาจะมอบรางวัลให้กับผู้สร้างโทเค็นด้วยการจ่าย 0.5 SOL ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามราคาปัจจุบัน หากโทเค็นจาก Pump.fun สามารถเปิดตัวบน DEX ชื่อดังอย่าง Raydium ได้สำเร็จ
แรงจูงใจครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากมีข้อมูลเปิดเผยว่า มีโทเค็นมากถึง 98.6% จาก Pump.fun ที่ไม่สามารถเปิดตัวบน Raydium ได้สำเร็จ
Pump.fun ถูกเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 เพื่อต่อสู้กับการเปิดตัวโทเค็นจากบุคคลวงในที่ไม่โปร่งใสและมีเจตนามุ่งร้าย
ในอดีตที่ผ่านมาเหรียญมีมมักถูกเปิดตัวผ่านการขายล่วงหน้าและการซื้อจากคนวงในที่เปิดโอกาสให้ทีมงานสามารถปกปิดจำนวนโทเค็นที่พวกเขามีและทำการควบคุมตลาดอย่างไม่ยุติธรรม
ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ Pump.fun เกิดขึ้นมา และพวกเขารับรองว่าข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโทเค็นที่สร้างบนแพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้ทุกคนสามารถเห็นจำนวนโทเค็นทั้งหมดที่มีอยู่และผู้ที่ถือครองโทเค็นเหล่านั้นได้อย่างโปร่งใส
ที่มา:cointelegraph