นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองการเคลื่อนไหวของพอร์ตการลงทุนของ Warren Buffett และ Michael Burry สองตำนานแห่งวงการลงทุน เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาช่วยตัดสินใจวางแผนการลงทุนของตนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลายคนอาจรู้จักตำนานนักลงทุนอย่าง Warren Buffet กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Michael Burry เขาคือ นักลงทุนผู้ได้กลิ่นวิกฤติก่อนใครและสามารถทำเงินได้มหาศาลจากวิกฤตซับไพรม์ จนถูกนำไปสร้างเป็นหนัง The Big Short ที่เข้าฉายไปยังโรงหนังทั่วโลก (สร้างจากเรื่องจริง)
ล่าสุดมีการรายงานจาก Unsual Whales ว่า Michael Burry ได้มีการปรับพอร์ตเข้าซื้อหุ้นจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีสัดส่วนการถือครองหุ้น Alibaba (BABA) คิดเป็น 21.26% ,หุ้น BIDU (12.36%) และ JD (12.31%) ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นจีนของ Burry กลายเป็นมากถึง 45% ของพอร์ต
ในขณะที่คุณปู่ Warren Buffet ลดการถือครองหุ้น Apple ลงมากถึงเกือบ 50% ซึ่งจะคิดเป็นการขายหุ้นอเมริกามูลค่าหลักหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และซื้อหุ้นตัวอื่นๆ เพิ่มเล็กน้อย อาทิ เครื่องสำอาง ULTA 690,106 หุ้น ($266M) และ หุ้นบริษัท HEICO หรือ HEI.A 1,044,242 หุ้น ($185M)
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Michael Burry ได้เข้าซื้อหุ้นจีนเป็นจำนวนมากจนมีสัดส่วนการถือครองมากถึง 45% ของพอร์ตอาจตีความได้ว่าหุ้นจีนรวมถึงประเทศจีนอาจกำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ขณะเดียวกันคุณปู่ Buffet ก็ทำการลดการถือครองหุ้นสหรัฐฯ ลงอย่างหนักหน่วง
สรุปได้ว่า การปรับพอร์ตลงทุนของทั้งสองตำนาน Warren Buffett และ Michael Burry เป็นเหตุการณ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนทั่วโลก การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองและการคาดการณ์ของพวกเขาต่อทิศทางของตลาดในอนาคต
ที่มารูปภาพ:CNN