VanEck คาดการณ์ว่า หากบริษัทเหมืองขุด Bitcoin ในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนไปแบ่งพลังงานของตนประมาณ 20% ของกำลังการผลิตภายในปี 2027 ไปให้กับภาคส่วนปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) “กำไรเพิ่มเติมทั้งหมดต่อปีอาจพุ่งแตะ 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีโดยเฉลี่ยในระยะเวลา 13 ปี”
“บริษัท AI ต้องการพลังงาน และนักขุด Bitcoin ก็มีมันอยู่” VanEck ระบุในรายงานวันที่ 16 สิงหาคม
VanEck กล่าวว่า “นักขุด Bitcoin มักจะมีงบดุลที่ไม่ดี เนื่องจาก หนี้สินที่สูงเกินไป,การออกหุ้นมากเกินไป, ค่าตอบแทนของผู้บริหารที่มากเกินไป, หรือในบางรายอาจมีครบทั้ง 3 อย่าง”
VanEck คาดการณ์ว่า หากบริษัทขุด Bitcoin ในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนไปใช้พลังงานของตนให้บริการกับ AI และ HPC ประมาณ 20% ของกำลังการผลิตภายในปี 2027 “กำไรเพิ่มเติมทั้งหมดต่อปีอาจเกิน 13.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีโดยเฉลี่ยในระยะเวลา 13 ปี”
VanEck ได้ชี้ให้เห็นว่าข้อดีของการที่นักขุด Bitcoin เข้าทำสัญญากับบริษัท AI คือบริษัทเหล่านี้มักยินดีให้ทรัพยากรทางการเงินสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อาทิเช่น อาคาร, โรงงาน, คอมพิวเตอร์, หรือที่ดิน ที่มีส่วนช่วยในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว
Core Scientific ซึ่งเป็นบริษัทขุด Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตามกำลังการขุด (หรือ hashrate) ได้ลงนามในสัญญา 12 ปีกับ AI hyperscaler CoreWeave เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งข้อตกลงนี้คาดว่าจะสร้างรายได้มากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน 200 เมกะวัตต์
ในขณะที่ บริษัทขุดจากแคนาดา Hive Digital Technologies ก็ยังคงขยายศูนย์การให้บริการเพื่อให้บริการ HPC แก่บริษัทในอุตสาหกรรมเกม, ปัญญาประดิษฐ์ และการเรนเดอร์กราฟิก ตามรายงานบริษัท Q4 ปี 2023
อย่างไรก็ตาม รายงานของ VanEck เกิดขึ้นในช่วงปีที่ท้าทายสำหรับนักขุด Bitcoin หลังจากการ Bitcoin halving ในเดือนเมษายน ซึ่งทำให้รางวัลในการขุดลดลงจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC สำหรับการเพิ่มบล็อกเข้าสู่บล็อกเชน
ที่มา:cointelegraph