ดูเหมือนว่าท่ามกลางการ side-ways ของราคา Bitcoin ที่ประมาณ 60,000 ดอลลาร์ กลับมีนักวิเคราะห์คนหนึ่งออกมาทำนายว่าราคาเหรียญมีโอกาสพุ่งขึ้นไปสูงถึง 72,000 หรือสูงกว่าจุดสูงสุดเดิมได้ภายในสิ้นปีนี้
โดยนักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า apsk ได้ออกมาโพสต์บน X (Twitter) ว่าราคา Bitcoin มีโอกาสพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงินทุน
สิ่งที่น่าสนใจคือ เขายังได้วิเคราะห์ข้อมูลจากโมเดล Power Law ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อรวมการคำนึงถึงเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงของอุปทาน Bitcoin โดยเฉพาะ และพบว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งไปถึง 500,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2029 ซึ่งสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้ถึง 66%
ซึ่งโมเดลใหม่นี้ยังสอดคล้องกับกฎของ Metcalfe ที่ระบุว่ามูลค่าของเครือข่ายจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนผู้ใช้งาน และในกรณีนี้คือ Bitcoin โดยมูลค่าตลาดของ Bitcoin ถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนของมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งนับเป็นเครื่องมือที่แม่นยำกว่าในการวัดมูลค่าของ Bitcoin มากกว่าการพิจารณาจากราคาในตลาดเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่าการไหลเข้าของ Spot ETFs จะช่วยหนุนราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยปัจจุบันข้อมูลจาก Soso Value แสดงให้เห็นว่า Spot Bitcoin ETFs ทั้งหมดมีการบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ากว่า 55.96 พันล้านดอลลาร์ และเฉพาะ BlackRock’s IBIT ก็มีการไหลเข้าของเงินมากถึง 21.5 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Bitcoinist