ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายอาร์ม ยูทูปเบอร์ชื่อดังด้านไอทีที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘9Arm’ ได้สร้างกระแสความสนใจบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ด้วยการโพสต์ถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในเรื่องของเทคนิคและหลักการที่ใช้ในการดำเนินการ เขาแสดงความสนใจอย่างจริงจังในแง่มุมทางเทคโนโลยีของโครงการนี้
ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วจากเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้เสนอให้ทีมงานของพรรคติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยให้ฝากเบอร์ติดต่อไว้ทาง inbox ซึ่งนายอาร์มได้ยืนยันในภายหลังว่ามีการติดต่อเข้ามาจริง และเขาได้แจ้งให้ผู้ติดตามรอการอัพเดท
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายอาร์มได้กลับมาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าเขากำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคของโครงการ digital wallet นี้ และเปิดรับข้อมูลจากผู้ที่ทำงานในโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งเชิญชวนให้ผู้ที่มีข้อมูลติดต่อมาแบ่งปัน
นายอาร์มยังเสริมด้วยว่า แม้จะได้ติดต่อโดยตรงไปยังพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลที่ต้องการ จึงขอความช่วยเหลือจากชุมชนในโซเชียลมีเดียอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนมากขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X รายหนึ่ง ออกมาตอบกลับโพสต์ของนายอาร์ม โดยแสดงความคิดเห็นสอบถามนายอาร์มว่า “คุณจะเอาข้อมูลรัฐไปทำไม ได้หรอ ใครทำงานโครงการนี้ ให้เอาข้อมูลของรัฐ ส่งให้คุณได้หรอ”
ทำให้ล่าสุดนายอาร์ม จึงออกมาแสดงความคิดเห็นตอบโต้ ว่า “เขาบอกว่าโครงการใช้ blockchain เพราะมันโปร่งใสครับ โปร่งจริงต้องมี design ที่ทุกคนดูได้ ก็แค่นั้นเอง มันไม่ได้ลับอะไรโว้ย”
เป็นที่น่าสังเกตว่าจากเหตุการณ์นี้ ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เมื่อพูดถึงการนำบล็อกเชนมาใช้ในโครงการของรัฐ ความโปร่งใสที่บล็อกเชนมอบให้นั้น ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ เนื่องจากข้อมูลที่ถูกบันทึกในบล็อกเชนไม่สามารถแก้ไขได้ และต้องเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถตรวจสอบได้อย่างอิสระ เพื่อทำให้การดำเนินงานของรัฐเป็นไปอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา
ซึ่งการที่นายอาร์มออกมาชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับการใช้บล็อกเชนในโครงการดังกล่าว เป็นเรื่องของการเพิ่มความโปร่งใส ไม่ใช่การเก็บข้อมูลลับของรัฐ แต่เป็นการออกแบบระบบที่เปิดกว้างและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการนำบล็อกเชนมาใช้ในภาครัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากประชาชนในการดำเนินงานของรัฐบาลนี้