วันที่ 29 สิงหาคม พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าจับกุม นายอรรณพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และ น.ส.วันวิสาข์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี
ในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พร้อมของกลาง เอกสารเกี่ยวกับบัญชีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบริษัท ริชชอป เทรดดิ้ง จำกัด
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ร่วมลงทุนเทรดเงินดิจิทัล อ้างผลตอบแทนสูง แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเหรียญดิจิทัลไปให้ กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งยังไม่สามารถถอนเงินเหรียญดิจิทัลที่ลงทุนกลับคืนได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก
หลังรับเรื่อง เจ้าหน้าที่จึงเร่งจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวน พร้อมไล่ตรวจสอบเส้นทางการถ่ายโอนเงินดิจิทัล จนทราบว่า หลังมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าวได้เงินดิจิทัลจากเหยื่อแล้ว ได้มีการโอนถ่ายต่อไปยังบริษัท ริชชอป เทรดดิ้ง จำกัด
ก่อนจะมีการนำไปขายเพื่อแปลงเป็นเงินปกติ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมี นายอรรณพ และ น.ส.วันวิสาข์ ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน เป็นผู้ก่อตั้งและอดีตกรรมการบริษัท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับบริษัท รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า มีการซื้อขายเหรียญนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ นอกกระดานซื้อขาย โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย, ชาวกัมพูชา, ชาวจีน
สอดคล้องกับข้อมูลของแนวทางสืบสวนที่ตรวจพบหลักฐานว่า มีบัญชีคริปโตเคอเรนซีของบริษัทดังกล่าวหลายบัญชี มีความเชื่อมโยงกับ แก็งคอลเซ็นเตอร์, เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ และขบวนการยาเสพติดหลายเครือข่ายอีกด้วย จึงเชื่อว่า น่าจะถูกใช้เป็นบัญชีรับแลกเหรียญเงินดิจิทัล ให้เครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของทั้งสองพบว่า ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี มีสินทรัพย์ดิจิทัลหมุนเวียนในบัญชีรวมกันกว่า 6 พันล้านบาท แบ่งเป็น น.ส.วันวิสาข์ 3,500 ล้านบาท และ นายอรรณพ 2,700 ล้านบาท
จากการสอบปากคำทั้งสอง ยังคงให้การภาคเสธ โดยรับว่า ประกอบธุรกิจรับแลกเหรียญดิจิทัลกับชาวต่างชาติจริง แต่ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย หรือ แก๊งมิจฉาชีพ ที่หลอกเงินผู้เสียหายมาลงทุนเทรดเงินดิจิทัลแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบริษัท แล้วพบเอกสารที่ปรากฏแน่ชัดว่า มีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนอกศูนย์ซื้อขาย หรือ นอกกระดานจริง จึงทำการตรวจยึดเอกสารซื้อขายทั้งหมดภายในบริษัทไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมคุมตัว นายอรรณพ และ น.ส.วันวิสาข์ มาดำเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : matichon