<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Tether ปฏิเสธแผนการสร้างบล็อกเชนของตัวเอง เหตุตลาดอิ่มตัว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตามรายงาน ล่าสุดของจาก Bloomberg News ในโลกของคริปโตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบล็อกเชนใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาทุกวัน Tether บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง USDT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป โดย Tether ตัดสินใจที่จะไม่เปิดตัวบล็อกเชนของตัวเอง ซึ่งขัดกับกระแสแนวโน้มในปัจจุบัน

Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ได้เปิดเผยเหตุผลของบริษัทในบทสัมภาษณ์กับ Bloomberg เขาแนะนำว่า ตลาดบล็อกเชนกำลังมีการแข่งขันสูง และแม้ว่า Tether จะโดดเด่นในด้านเทคโนโลยี แต่เขาเชื่อว่า บล็อกเชนจะกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในที่สุด 

โดย Paolo Ardoino กล่าวเสริมว่า การเปิดตัวบล็อกเชนของตนเอง อาจไม่ใช่การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม เนื่องจากมีบล็อกเชนที่ยอดเยี่ยมอยู่มากมายในปัจจุบัน

การตัดสินใจครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เมื่อพิจารณาจากแหล่งเงินทุนของ Tether และการใช้งาน USDT อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม บริษัทดูเหมือนจะไม่หวั่นไหวต่อความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น จากการเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว 

ข้อมูลจาก DefiLlama ที่อ้างอิงโดย Bloomberg แสดงให้เห็นว่า มีบล็อกเชนเพียงห้าแห่ง ที่ควบคุมมูลค่ารวมที่ล็อก อยู่ในโปรโตคอลการเงินแบบ decentralized ประมาณ 86%

Ethereum ซึ่งเป็นบล็อกเชนชั้นนำในแง่ที่มีความสำคัญเชิงพาณิชย์ มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อค (TVL) ราวๆ 87,700 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่ารวมทั้งหมด 133,200 ล้านดอลลาร์ทั่วทั้งเชน ตามข้อมูลของ DefiLlama

Bloomberg เน้นย้ำว่า ปัจจัยต่างๆ เช่น ความเร็วสูง, ค่าธรรมเนียมต่ำ, ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และกรณีการใช้งานที่เป็นประโยชน์นั้นมีความสำคัญต่อความสำเร็จของบล็อกเชน

การเข้าสู่ตลาดก่อนของ Ethereum ความสามารถในการปรับตัวของนักพัฒนา และตำแหน่งของ Ethereum ในฐานะที่อยู่ของโทเค็นที่มีสภาพคล่องเป็นอันดับสอง มีส่วนทำให้ Ethereum ครองตำแหน่งเหนือกว่า แม้จะมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงก็ตาม

ซีอีโอของ Tether ดูเหมือนจะพอใจกับแนวทางปัจจุบันของบริษัทที่ “ไม่ยึดติดกับบล็อกเชน” ตราบใดที่แพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขาย USDT ยังคงรักษาความปลอดภัยและความยั่งยืนได้ในระดับสูง ตามที่ Ardoino กล่าวว่า “สำหรับเรา บล็อกเชนเป็นเพียง transport layers”

ที่มา : cryptoglobe