อัตราแฮชเรตของเครือข่าย Bitcoin ซึ่งเป็นผลรวมของพลังการคำนวณทั้งหมดที่ ใช้ สำหรับรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย Bitcoin ได้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2024
ตามข้อมูลจาก CryptoQuant อัตราแฮชเรตได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไปสู่ฮาร์ดแวร์ของการขุดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น วงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชัน application-specific integrated circuits (ASICs)
อัตราแฮชเรตของเครือข่าย Bitcoin 2021-2024 ที่มา: CryptoQuant
เมื่ออัตราแฮชเรตของเครือข่ายเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการขุด Bitcoin ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะนักขุดถูกบังคับให้ต้องอัปเกรดเครื่องมือขุดที่ทรงพลังมากขึ้น ขยายการปฏิบัติการ และใช้พลังงานมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกันได้ต่อไป
อุตสาหกรรมเหมืองขุด เผชิญความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ
อัตราแฮชเรตที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับอัตราความยากในการขุดที่เพิ่มสูงขึ้น สร้างปัญหาให้กับรายได้ของนักขุด ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2024 ถือเป็นเดือนที่แย่ที่สุดสำหรับผลกำไรของนักขุด นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 โดยรายได้ของนักขุดร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 827.56 ล้านดอลลาร์
ความยากในการขุด Bitcoin 2021-2024 ที่มา: CryptoQuant
ความท้าทายทางการเงินที่นักขุดต้องเผชิญ ถูกบันทึกไว้ในรายงานล่าสุดของ JP Morgan ซึ่งเปิดเผยว่า นักขุดกำลังเผชิญกับการสูญเสียรายได้จากหลายแหล่ง รวมถึงการลดรางวัลบล็อก และต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น
จากรายงานพบว่า บริษัทขุด Bitcoin ทั้ง 5 แห่ง ที่ได้รับการวิเคราะห์ MARA และ Riot Platforms ถือเป็นบริษัทที่มีค่าใช้จ่ายต่อ 1 Bitcoin สูงที่สุด โดยอยู่ที่ประมาณ 55,700 ดอลลาร์และ 62,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ต้นทุนที่สูงขึ้น และรายได้ที่ลดลง ทำให้บริษัทเหมืองขุด ต้องพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และสามารถดำเนินธุรกิจต่อไป
บริษัทเหมืองขุดหลายแห่ง กำลังเปลี่ยนจากการออกหนี้ของบริษัท ไปเป็นการเสนอขายหุ้นแก่นักลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราส่วนหนี้สินต่อต้นทุนที่สูง
บริษัทเหมืองขุดอื่น ๆ กำลังพิจารณาการขยายธุรกิจไปยังภาคปัญญาประดิษฐ์ AI และการคำนวณที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อชดเชยรายได้จากการขุดคริปโตที่ลดลง โดยจัดสรรทรัพยากรด้านการคำนวณ และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพบางส่วน ไปยังศูนย์ข้อมูลการประมวลผลข้อมูล
ที่มา : cointelegraph