ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักอีกครั้ง เมื่อวันนี้ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงอย่างรุนแรง ทะลุระดับ 56,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประสบปัญหาการตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้เงินทุนจำนวนมหาศาลกว่า 1.05 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไหลออกจากตลาดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ราคา Bitcoin เริ่มร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดใกล้ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าวันก่อนหน้า ลงมาแตะจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 55,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา Bitcoin หดตัวลงถึง 7% ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
สาเหตุของการร่วงลงในครั้งนี้คาดว่ามาเป็นผลมาจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีเงินไหลออกมากถึง 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง ในช่วงปิดตลาดซื้อขายวันที่ 3 กันยายน ซึ่งนับเป็นการสูญเสียในวันเดียวที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี
ในช่วงบ่าย หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงไปกว่า 700 จุด และปิดตลาดลดลงมากกว่า 2% ลงมาที่ประมาณ 40,936.93 จุด โดยส่วนใหญ่แล้วราคาหุ้นร่วงลงเนื่องจากข้อมูลการผลิตที่น่าผิดหวัง
ส่วนดัชนี S&P 500 ก็ร่วงลดลงไม่ต่างกัน ซึ่งลดลงราว 2.4% ปิดตลาดที่ 5,530 จุด สาเหตุไม่ได้อยู่ที่ภาคการผลิต แต่เป็นเพราะภาคเทคโนโลยีมากกว่า เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Nvidia ลดลงมากถึง 9.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
แม้ตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงตลาดคริปโตต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในระยะสั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจนำไปสู่การฟื้นตัวของตลาดได้ หนึ่งในปัจจัยที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญคือการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และอีกปัจจัยหนึ่งคือการแจกจ่ายเงินคืนจำนวน 14.5 พันล้านดอลลาร์ให้แก่เจ้าหนี้ของ FTX ในช่วงปลายปีนี้
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $56,484 ลดลง 4.72% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Coin Market Cap
ที่มา:cryptopolitan