Robinhood ได้ตกลงที่จะจ่ายเงิน 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากถูกกล่าวหาว่า บริษัททำการขัดขวางไม่ให้ลูกค้าถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากบัญชีของพวกเขาเป็นระยะเวลานานถึง 4 ปี
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า นี่ถือเป็นการดำเนินการครั้งแรกของหน่วยงานกำกับดูแลต่อบริษัทคริปโต เนื่องจากพวกเขายังคงใช้สิทธิ์ในการดำเนินการภายใต้กรอบของ “การปกป้องผู้บริโภค”
ผลการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมเผยว่า Robinhood อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อคริปโตเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ระหว่างปี 2018 ถึง 2022 โดยมุ่งเน้นที่การทำกำไรระยะสั้น โดยไม่ได้ส่งมอบสินทรัพย์จริงให้กับผู้ใช้
การกระทำของ Robinhood ถูกพิจารณาว่าละเมิดกฎหมายสินค้าโภคภัณฑ์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในเวลานั้นลูกค้าไม่สามารถถอนคริปโตออกได้ ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขายคืนให้กับ Robinhood เพื่อออกจากแพลตฟอร์ม กระทรวงยุติธรรมกล่าว
นอกจากบทลงโทษทางการเงินแล้ว ข้อตกลงยังรวมถึงข้อกำหนดในการดำเนินการบางประการ โดย Robinhood จะต้องอนุญาตให้ลูกค้าถอนคริปโตไปยังกระเป๋าเงินของพวกเขาเอง รวมไปถึงการปรับปรุงความโปร่งใสในการซื้อขายและการจัดการคำสั่งซื้อ
การสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยังเปิดเผยอีกว่า Robinhood ได้หลอกลวงผู้ใช้โดยโฆษณาแบบผิด ๆ ว่าจะเชื่อมต่อกับตลาดการซื้อขายหลายแห่งเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับราคาที่ดีที่สุด
แต่ Robinhood ไม่ได้ให้การเข้าถึงราคาที่ดีที่สุดเสมอไปอย่างที่โฆษณาไว้ นอกจากนี้ยังบริษัทดังกล่าวยังแสดงข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับหน้าที่ในฐานะผู้ดูแลคริปโต โดยยืนยันกับลูกค้าว่า บริษัทถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดที่ซื้อผ่านแพลตฟอร์ม ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เนื่องจากสินทรัพย์บางส่วนถูกจัดเก็บไว้กับผู้ให้บริการภายนอกเป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในขณะนั้น ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่ Robinhood ได้โฆษณาไว้
อย่างไรก็ตาม Robinhood ยังคงเผชิญกับพายุคดีความอย่างไม่หยุดหย่อน โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม บริษัทเพิ่งถูกปรับเงินกว่า 9 ล้านดอลลาร์ในข้อหาละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หลังจากโปรแกรม ‘แนะนำเพื่อน’ ของบริษัทได้ส่งข้อความที่ละเมิดกฎไปยังผู้ใช้งาน
ที่มา:decrypt