ดูเหมือนว่าในตอนนี้ราคา Bitcoin จะได้ร่วงลงมาอีกครั้ง หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ส่งผลให้ราคาร่วงลงมาแตะ 55,000 ดอลลาร์ ลดลง 3.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาตามข้อมูลจาก CoinmarketCap
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาเหรียญลดลงนั้น มาจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) ในเดือนสิงหาคมที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ
และนอกจากตัวเลขดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ได้ออกมาแถลงว่าถึงเวลาแล้วที่จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยการตัดสินใจดังกล่าวคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 18 กันยายนนี้
“นโยบายการเงินในปัจจุบันได้สร้างความสมดุลให้กับเศรษฐกิจและช่วยลดอัตราเงินเฟ้อได้สำเร็จ” พร้อมกับย้ำว่า “ในขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะสมดุลและเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนไปสู่ระดับ 2% ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะลดความเข้มงวดทางนโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย”
John Williams ประธานธนาคารกลางสาขานิวยอร์กกล่าว
ซึ่งจากข้อมูลของ CME Group ผ่านเครื่องมือ FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่าตลาดมีโอกาส 53% ในการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด และ 47% ในการลด 50 จุด หลังจากข้อมูลออกมา ในขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ก็แข็งค่าขึ้น 0.3% ทำให้ราคา Bitcoin ลดลงตามปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตลาดอย่าง Daan Crypto Trades กลัวมองว่าค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนแอในระยะยาว โดยเชื่อว่าดัชนี DXY จะทะลุระดับ 101 และอาจลงไปต่ำกว่า 99.5 ซึ่งจะส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin ในอนาคต
“ผมคิดว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่ดัชนี DXY จะลดลงต่ำกว่า 99.5 และต่ำกว่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อสินทรัพย์เสี่ยง”
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph