วันที่ 7 กันยายนเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่เอลซัลวาดอร์ประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนกล้าเท่านี้มาก่อน
เอลซัลวาดอร์ประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2021 และหลังจากนั้น สาธารณรัฐแอฟริกากลางก็ประกาศเช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2022
ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ Nayib Bukele ยอมเสี่ยงและประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แม้จะมีคำเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับความเสี่ยงจากความผันผวน แต่นาย Bukele ก็ไม่เปลี่ยนใจจากการตัดสินใจของเขา
จุดยืนที่เข้มแข็งของเขาทำให้เอลซัลวาดอร์กลายเป็นผู้บุกเบิกสินทรัพย์ดิจิทัลในประวัติศาสตร์ พวกเขาได้เสี่ยงลงทุนใน Bitcoin เพื่อที่จะแก้ปัญหาวิกฤตทางการเงินของประเทศ
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เอลซัลวาดอร์เริ่มซื้อ Bitcoin ทุกวัน วันละ 1 BTC โดยใช้วิธีการ DCA นอกจากซื้อ Bitcoin ในแต่ละวันแล้ว พวกเขายังช้อน Bitcoin หลายร้อย BTC ในช่วงที่ราคาร่วง
ข้อมูลจาก Nayib Tracker แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันประเทศมี Bitcoin อยู่ 5,865 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 310 ล้านดอลลาร์ มีกำไร 24.26% หลังจากซื้อเป็นเวลา 3 ปี และมีต้นทุนเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ 43,877 ดอลลาร์
ประชากรของเอลซัลวาดอร์ได้อะไรจาก Bitcoin
สิ่งนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศเท่านั้น สิ่งนี้ได้ส่งผลต่อประชากรของประเทศอีกด้วย โดยนาย Napoleon Osorio เป็นนักธุรกิจเศรษฐีวัย 39 ปีที่เคยขับแท็กซี่เช่า ได้หันมารับค่าโดยสารเป็น Bitcoin และปัจจุบันเขามีธุรกิจให้เช่ารถชื่อ Bit-Driver และมีคนขับ 21 คน
ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนจากคนไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ กลายเป็นคนที่สามารถช่วยผู้อื่นในการหารายได้ได้ ซึ่งนี่สิ่งที่ Bitcoin เปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งในเอลซัลวาดอร์ Bitcoin ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของพ่อค้าแม่ค้าตั้งแต่ร้านน้ำผลไม้ไปจนถึงร้านไอศกรีม และได้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวทั้งหมดของประเทศและพลเมืองของประเทศ
ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เริ่มใช้ Bitcoin แต่ประเทศนี้กำลังเติบโตเร็วกว่าประเทศอื่น
Source: Coinpedia