<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

SEC ยืนกราน! จะไม่แก้กฎ SAB 121 แม้กระทบภาพลักษณ์คริปโตในสายตานักลงทุน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ (SEC) จะยังคงยืนกรานในจุดยืนเกี่ยวกับกฎระเบียบ หลังพยายามจำกัดการให้บริการดูแลสินทรัพย์คริปโตของสถาบันการเงินที่ได้รับการควบคุม

Paul Munter หัวหน้านักบัญชีของ SEC ได้ออกมากล่าวในที่ประชุมด้านการธนาคารเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้พูดถึงจุดยืนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการบัญชีสำหรับสินทรัพย์คริปโต โดยเน้นที่แนวทางของ Staff Accounting Bulletin No. 121 (SAB 121) และการประยุกต์ใช้กับธนาคารต่างๆ

Munter กล่าวว่า ทัศนะของทีมงาน SEC เกี่ยวกับ SAB 121 “ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง” และเสริมว่า “หากไม่มีข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่บรรเทาโดยเฉพาะ ทีมงานเชื่อว่าหน่วยงานควรบันทึกหนี้สินในงบดุลเพื่อสะท้อนถึงภาระหน้าที่ในการปกป้องสินทรัพย์คริปโตที่ถือครองเพื่อผู้อื่น”

การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ Nate Geraci ประธาน ETF Store กล่าวผ่านโพสต์ใน X (Twitter) เมื่อวันที่ 10 กันยายนว่า SEC ดูเหมือนจะ “ยืนกราน” ใน SAB 121 พร้อมระบุว่า “พวกเขาไม่อยากให้สถาบันการเงินต่างๆ สามารถดูแลสินทรัพย์คริปโตได้”

โดย SAB 121 เป็นกฎที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2022 เพื่อเป็นแนวทางการบัญชีสำหรับสถาบันที่ต้องการดูแลสินทรัพย์คริปโต ทว่ามันกลับสร้างความขัดแย้งในแวดวงการเมือง เนื่องจากมันแทบจะไม่อนุญาตให้ธนาคารและสถาบันการเงินที่ได้รับการควบคุมสามารถดูแลสินทรัพย์คริปโตในนามของลูกค้าได้เลย

เนื่องจาก SEC เชื่อว่าหน่วยงานที่มีข้อตกลงในการดูแลสินทรัพย์คริปโตควรบันทึกหนี้สินในงบดุล แต่ Munter ก็ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแค่ในบางกรณีเท่านั้น ในขณะที่บัญชีบล็อกเชนและคริปโตอาจไม่เข้ากับแนวทางใน SAB 121 เช่น บริษัทโฮลดิ้งที่ดูแลคริปโตและมีการป้องกันจากการล้มละลาย อาจไม่ต้องบันทึกหนี้สินในงบดุล

นอกจากนี้ “นายหน้าซื้อขาย” ที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมคริปโตแต่ไม่ได้ควบคุมกุญแจเข้ารหัสก็อาจไม่จำเป็นต้องบันทึกหนี้สินเช่นกัน ซึ่ง Hester Peirce กรรมาธิการของ SEC ซึ่งต่อต้านกฎนี้ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาและกระบวนการของ SAB 121 อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวได้มีความพยายามยกเลิกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติให้ยกเลิกคำแนะนำของ SEC ที่เป็นประเด็นถกเถียง แต่ประธานาธิบดี Joe Biden ได้ใช้สิทธิยับยั้งให้มีการยกเลิกในเดือนถัดมา

ที่มา: Cointelegraph