Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX ได้แสดงความกังวลถึงความเสี่ยงของ Bitcoin อีกครั้ง หลังการเทขายสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับการซื้อขายเงินเยนญี่ปุ่น แม้ว่าราคาเหรียญจะพุ่งขึ้นไปถึง 58,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ แต่กลับลดลงหลังจากการดีเบตระหว่าง Donald Trump และ Kamala Harris ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ แล้ว การ unwind หรือปิดสถานะการลงทุนที่เชื่อมโยงกับการซื้อขายแบบ carry trade ที่เริ่มต้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดการเทขายจนทำให้ราคา BTC ลดลงถึง 49,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมันเชื่อมโยงกับการแข็งค่าของเงินเยนญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
“$USDJPY กำลังลดลง นี่อาจจะเป็นสัญญาณของความปั่นป่วนในตลาดอีกครั้งเมื่อแตะระดับ 140 มาดูกันว่า $BTC จะสามารถยืนหยัดได้หรือไม่”
โดยการซื้อขายแบบ carry trade คือการที่นักลงทุนกู้ยืมเงินจากสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือใกล้ศูนย์ เช่น เงินเยน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่นิยมมากว่า 17 ปี และนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ตลาดสหรัฐฯ
แต่เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม การ unwind ก็เกิดขึ้น ส่งผลให้มีการปิดสถานะและการขายออกในตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
การวิเคราะห์นี้สอดคล้องกับรายงานของ Yardeni Research ที่ระบุว่า การ unwind ของ carry trade อาจจะยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะเมื่อมีการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุด และทำการเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ซึ่งจะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับเงินเยนและกดดันนักลงทุนให้ปิดสถานะการ carry trade
และในขณะที่การปรับตัวของ Bitcoin ในตลาดมีความสัมพันธ์อย่างมากกับ Nasdaq ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการเทขายครั้งต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อ BTC อย่างรุนแรงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: ABMCrypto