ในขณะที่คนส่วนใหญ่วัย 88 ปีมักใช้ชีวิตเกษียณอย่างสงบสุขอยู่กับครอบครัว ชิเกรุ ฟูจิโมโตะ ชายชาวโกเบกลับเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างขยันหมั่นเพียรทุกวัน เขาตื่นแต่เช้ามืดตีสอง เพื่อเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ 3 เครื่องของเขา จากนั้นฟูจิโมโตะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการติดตามข่าวสารเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่เขาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
เมื่อเวลา 9 โมงเช้ามาถึง ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มเปิดการซื้อขาย ตัวของเขาเองก็ไม่รอช้าและรีบวางออเดอร์ซื้อขาย ซึ่งช่วงเวลา 9-10 โมงเป็นช่วงที่เขาระบุว่ายุ่งที่สุดในแต่ละวัน
ด้วยความที่อายุมากแล้วตัวของเขารู้ดีเลยว่าเขาไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง สายตาที่ย่ำแย่ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างกายของเขามีการทำงานผิดพลาดเป็นบางครั้งจนส่งผลทำให้เขาวางออเดอร์พลาด แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดให้เขาไม่สามารถทำกำไรระดับ 6 หลักได้ในแต่ละวัน (อิงจากสกุลเงินเยน) โดยฟูจิโมโตะได้ให้คะแนนตัวเองไว้ที่ 75 คะแนนจาก 100 คะแนน
มากไปกว่านั้นตัวของฟูจิโมโตะยังได้จดบันทึกทุกธุรกรรมลงในสมุดของเขา โดยในปีนี้เขามีสินทรัพย์ในบัญชีมากกว่า 2 พันล้านเยน (440 ล้านบาท) ซึ่งเขาตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะประสบความสำเร็จให้เหมือนกับนักลงทุนชื่อดังอย่าง “Warren Buffett”
ถึงแม้จะมีเป้าหมายสุดทะเยอทะยานในวัยนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขากลับไม่ได้อยากใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยอะไรขนาดนั้น โดยตัวเขาตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งรถยนต์ หรือโทรศัพท์มือถือ ขณะที่เครื่องแต่งกายก็เป็นชุดธรรมดา เช่นหมวกใบโปรดของเขาที่ซื้อมาเมื่อ 15 ปีก่อนในราคาไม่กี่พันเยน แต่เขาก็ยังคงใช้และซ่อมแซมมันเรื่อยมา
จุดเริ่มต้นของการลงทุน
ฟูจิโมโตะเริ่มต้นการลงทุนตั้งแต่เขามีอายุเพียง 19 ปี หลังจบการศึกษารับชั้นมัธยมปลายมาได้ไม่นาน โดยเขาเริ่มต้นฝึกฝนวิชาการลงทุนจากคำแนะนำของลูกค้าคนหนึ่งที่ได้มาใช้บริการร้านสัตว์เลี้ยงซึ่งตัวของเขาได้ทำงานอยู่ในขณะนั้น
ต่อมาเข้าก็ได้ไปทำธุรกิจเปิดคลับเล่นไพ่หมากจั่ว (mah-jongg) จนเฟื่องฟูและเขาก็ได้ขายธุรกิจนั้นไปเป็นเงินกว่า 65 ล้านเยนหลังธุรกิจเริ่มมีขนาดใหญ่ และเริ่มเข้าสู่อาชีพนักลงทุนอย่างเต็มรูปแบบในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นบูมอย่างรุนแรง จนเขาสามารถถือครองสินทรัพย์ได้มากกว่า 1 พันล้านเยน
วิกฤตถาโถม
ทว่าอย่างที่ทุกคนทราบกันดี ฟองสบู่ยอมมีวันแตก เมื่อญี่ปุ่นเกิดวิกฤตการเงินนั่นก็ทำให้สินทรัพย์ของเขาหายไปจำนวนมากจนเหลือเพียงแค่ 200 ล้านเยน มากไปกว่านั้น เคราะห์กรรมยังไม่จบสิ้นเมื่อปี 1995 เขาต้องประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งเขาก็ต้องเอาตัวรอดจากบ้านที่พังทลายจนกลายเป็นผู้ประสบภัย ทำให้เขาหมดกำลังใจในการลงทุนอยู่ช่วงหนึ่ง
ไม่มีคำว่าสาย
จนเวลาได้ล่วงเลยไปมาถึงวัยอายุ 66 ปี ฟูจิโมโตะเพิ่งเริ่มทำความคุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากในหมู่ผู้สูงวัย โดยเขาเริ่มรู้จักกับการเทรดหุ้นออนไลน์ในปี 2002 จากการที่โบรกเกอร์ที่เขารู้จักได้แนะนำมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาสนใจเป็นอย่างมากแล้วเข้ามาลงสนามทั้ง ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นด้วยซ้ำ โดยเขาถือคติที่ว่า 0 x 0 มีแต่จะได้ศูนย์เว้นเสียแต่ว่าเราจะเริ่มทำอะไร โลกนี้มันช่างกว้างใหญ่และมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ ดังนั้นอายุไม่ใช่ปัญหาถ้าเราตั้งใจที่จะทำอะไรใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม คติดังกล่าวไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป เพราะมันก็ทำให้เขาล้มเหลวหลายครั้งเช่นกัน แต่เขาเชื่อมั่นว่าเราจะฟื้นกลับขึ้นมาได้มากกว่าความล้มเหลวเหล่านั้น พร้อมกับกล่าวด้วยว่า การคิดมากไปก็ไม่ดีเพราะมันจะส่งผลต่อการตัดสินใจข้างหน้าด้วย รวมถึงกำชับว่า “การเทรด ไม่ใช่ที่สำหรับคนที่ต้องการหาเงินง่าย ๆ” โดยฟูจิโมโตะเปรียบหุ้นที่ซื้อมาเป็นดังเพื่อน เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องดูแลและอยู่เคียงข้างตลอดเวลา และสาเหตุที่เขายังคงชอบเทรดอยู่เพราะเขาสนุกไปกับมัน และรู้สึกดีใจเมื่อผลออกมาเป็นไปดังที่เขาทำนายไว้
ฟูจิโมโตะยังให้ความเห็นอีกด้วยว่าตัวเขานั้นไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของนักวิเคราะห์ในทีวีมากเท่าไร เพราะบุคคลเหล่านั้นต่างรับเงินเดือนมาพูด ไม่ได้เอาเงินตัวเองไปลงจริง ๆ ดังนั้นคุณต้องรวบรวมความกล้า และถ้ามันพลาดก็แค่โทษความอ่อนแอของตนเองและเริ่มต้นกันใหม่
ทั้งนี้นักข่าวได้ทำการสัมภาษณ์เขาด้วยว่าเขาจะเกษียณจากการลงทุนเมื่อไร โดยฟูจิโมโตะก็ตอบกลับมาว่า เมื่อเขาเสียชีวิตลงเท่านั้น และเขาไม่อยากจะตายจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งเอาไว้
