<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

10 บทเรียนที่นักลงทุนและนักเก็งกำไรได้จากปรากฏการณ์หุ้น GameStop

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปรากฏการณ์หุ้น GameStop ในช่วงต้นปี 2021 ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่ง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์โลกการลงทุน เหตุการณ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่ผู้คนมีต่อตลาดหุ้นไปโดยสิ้นเชิง เผยให้เห็นข้อบกพร่องในระบบการซื้อขายแบบดั้งเดิม และพลังของนักลงทุนรายย่อย  ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎเกณฑ์และความยุติธรรมของตลาด

บทความนี้จึงจะมานำเสนอบทเรียนสำคัญ ๆ ที่ได้เรียนรู้จากเรื่องราวของ GameStop ซึ่งรวมถึงบทบาทของนักลงทุนรายย่อย, ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อการเทรด, จุดอ่อนของกองทุน hedge funds , ความสำคัญของความรู้ทางการเงิน และการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการควบคุมตลาด ซึ่งบทเรียนเหล่านี้ จะมอบข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับนักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และบุคคลใด ๆ ที่สนใจในเรื่องพลวัตของตลาดการเงิน

ภาพรวมสั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของ GameStop

ในเดือนมกราคม 2021 GameStop ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านขายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐอเมริกาที่ราคาหุ้นร่วงดิ่ง  กลับได้เห็นราคาพุ่งขึ้นจากระดับราคาต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ ไปเป็นมากกว่า 400 ดอลลาร์ ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานใดๆ ในโมเดลธุรกิจหรือแนวโน้มของบริษัท แต่เกิดจากการ short squeez ครั้งใหญ่ ที่ทำโดยกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ในฟอรัม Reddit ที่ชื่อว่า “WallStreetBets” นักลงทุนเหล่านี้สังเกตเห็นว่า กองทุน hedge funds หลายแห่ง รวมถึง Melvin Capital ได้เข้าซื้อ short positions จำนวนมากกับ GameStop เพื่อเดิมพันว่า ราคาหุ้นของบริษัทจะลดลง

ผู้ใช้งานใน Reddit เริ่มซื้อหุ้น GameStop เป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นและบังคับให้ผู้ขาย short  positions ต้องปิด positions ของตน โดยซื้อหุ้นในราคาที่สูงกว่ามาก ส่งผลให้เกิดวงจรย้อนกลับที่เรียกว่า Short Squeeze ซึ่งผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก ปรากฏการณ์ดังกล่าวดึงดูดความสนใจของคนทั่วโลก ก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับการบิดเบือนตลาด, บทบาทของโซเชียลมีเดียในการซื้อขาย และพลังอำนาจระหว่างนักลงทุนรายย่อยและผู้เล่นสถาบัน

บทเรียนที่ 1 : พลังของนักลงทุนรายย่อย

ปรากฏการณ์ GameStop เน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้น โดยปกติแล้ว นักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุน hedge funds และกองทุนรวม จะเป็นผู้ครองตลาดการซื้อขายหุ้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มการซื้อขายโดยไม่คิดค่าคอมมิชชัน เช่น Robinhood และการเข้าถึงข้อมูลตลาดที่เพิ่มมากขึ้นได้ทำให้ผู้ลงทุนรายบุคคลมีอำนาจมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ประเด็นสำคัญ: นักลงทุนรายย่อยสามารถส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักลงทุนเหล่านี้ร่วมมือกัน จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากสามารถท้าทายอำนาจเหนือผู้เล่นสถาบันได้ ซึ่งอาจเปลี่ยนพลวัตของตลาดหุ้นได้ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่นักลงทุนสถาบันจะต้องใส่ใจกับทัศนคติและกิจกรรมของนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถละเลยปัจจัยเหล่านี้ได้อีกต่อไป

บทเรียนที่ 2 : บทบาทของโซเชียลมีเดียในการซื้อขายสมัยใหม่

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Reddit มีบทบาทสำคัญในเรื่องราวของ GameStop ซึ่ง ชุมชน “WallStreetBets” ได้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับนักลงทุนรายย่อยในการแชร์ข้อมูล กลยุทธ์ และแนวคิด ซึ่งแนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนนี้ ช่วยให้มีนักลงทุนหลายพันคน หันมาสนใจแนวคิดในการซื้อหุ้น GameStop เพื่อกระตุ้นการ short squeeze ของกองทุน hedge funds

ประเด็นสำคัญ: โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการมีอิทธิพลต่อราคาหุ้น ช่วยให้ข้อมูล แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งอาจนำไปสู่การซื้อขายที่สอดประสานกัน สำหรับนักลงทุน นั่นหมายถึง การเฝ้าระวังเรื่องราวและแนวโน้มที่แพร่กระจายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Reddit, Twitter และ Discord สำหรับหน่วยงานกำกับดูแล สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบ และแก้ไขอิทธิพลของโซเชียลมีเดียที่มีต่อพฤติกรรมของตลาด

บทเรียนที่ 3 : การ Short Selling มีความเสี่ยงและก่อให้เกิดข้อถกเถียง

เหตุการณ์ GameStop เน้นย้ำถึงความเสี่ยง และข้อถกเถียงที่เกี่ยวกับการ short selling ซึ่งกองทุน Hedge funds ที่ขาย shorted หุ้น GameStop อย่าง Melvin Capital ประสบกับการขาดทุนครั้งใหญ่ เมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด การ Short selling เกี่ยวข้องกับการยืมหุ้น และขายหุ้น โดยคาดหวังที่จะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการ short squeeze ผู้ที่ทำการ short อาจถูกบังคับให้ซื้อหุ้นคืนในราคาที่สูงขึ้นมาก ซึ่งนำไปสู่การขาดทุนจำนวนมาก

ประเด็นสำคัญ: การ Short selling มีความเสี่ยงโดยธรรมชาติ และนักลงทุนควรตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ปรากฏการณ์ GameStop แสดงให้เห็นว่าการ short positions อาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืนได้ หากความรู้สึกของตลาดเปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังดึงดูดความสนใจไปที่ผลกระทบทางจริยธรรมของการ short selling โดยบางคนโต้แย้งว่า สามารถสร้างความเสียหายอย่างไม่เป็นธรรมให้กับบริษัท และทำให้ตลาดไม่มั่นคงได้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนที่จะมีส่วนร่วมในการ short selling และเข้าใจว่า ตลาดไม่สามารถคาดเดาได้

บทเรียนที่ 4 : ตลาดสามารถเกิดพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผลได้

การที่ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานใด ๆ ในแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัท แต่เกิดจากความกระตือรือร้นของนักลงทุนรายย่อย, การ short squeezing  และการซื้อขายตามโมเมนตัม ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างมีเหตุผลเสมอไป และราคาหุ้นอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท

ประเด็นสำคัญ: ตลาดหุ้นไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานหรือศักยภาพที่แท้จริงของบริษัทเสมอไป แต่ตลาดหุ้นสามารถถูกควบคุมโดยอารมณ์ การเก็งกำไร และปรากฏการณ์ทางสังคม ซึ่งนักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนในหุ้น โดยไม่ได้พิจารณาจากกระแสหรือโมเมนตัมเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังบริษัทที่ตนลงทุน, การกระจายการลงทุน และการมองในระยะยาว จะสามารถช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากความผิดปกติของตลาดดังกล่าวได้

บทเรียนที่ 5 : ความสำคัญของความรู้ทางการเงิน

เรื่องราวของ GameStop ดึงดูดความสนใจไปที่ ความสำคัญของความรู้ทางการเงินสำหรับนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่ซื้อหุ้น GameStop การทำเช่นนั้น โดยไม่เข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ บางรายได้กำไรอย่างมาก ในขณะที่บางรายต้องเผชิญกับการขาดทุนจำนวนมาก เมื่อราคาหุ้นลดลงในที่สุด

ประเด็นสำคัญ: ความรู้ทางการเงินมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับตัว กับความซับซ้อนของตลาดหุ้น นักลงทุนควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหลักการลงทุนพื้นฐาน เช่น การจัดการความเสี่ยง, การกระจายความเสี่ยง และพลวัตของตลาด การทำความเข้าใจว่า เครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างกันทำงานอย่างไร รวมถึง options และการ short selling จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างรอบรู้ และหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่ไม่จำเป็น ซึ่งการศึกษาทางการเงินควรเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับทั้งนักลงทุนรายบุคคลและสาธารณชนโดยทั่วไป เพื่อส่งเสริมการลงทุนอย่างรับผิดชอบ

บทเรียนที่ 6 : จุดอ่อนของกองทุน Hedge Funds

เหตุการณ์ GameStop ได้เปิดเผยจุดอ่อนของกองทุน hedge funds ที่มักถูกมองว่า เป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลในตลาดการเงิน กองทุน hedge funds อย่าง Melvin Capital เคยเปิด short positions จำนวนมากกับ GameStop ซึ่งถูกจับได้โดยไม่ทันตั้งตัวจากการกระทำร่วมกันของนักลงทุนรายย่อย ทำให้ Melvin Capital ต้องเผชิญกับการขาดทุนมหาศาล และต้องขอความช่วยเหลือจากนักลงทุนสถาบันรายอื่นๆ

ประเด็นสำคัญ: กองทุน hedge funds นั้นแม้จะมีทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ยงคงกระพัน ปรากฏการณ์ GameStop แสดงให้เห็นว่า กองทุนเหล่านี้อาจตกเป็นเหยื่อของการดำเนินการร่วมกันของนักลงทุนรายย่อยและการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่คาดคิด นอกจากนี้ ปรากฏการณ์นี้ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีแนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้นภายในกองทุน hedge funds เพื่อบรรเทาการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจาก positions ที่มีเลเวอเรจสูง 

บทเรียนที่ 7 : การถกเถียงเรื่องกฎระเบียบตลาด

เหตุการณ์ GameStop ได้ก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงกันอย่างดุเดือด เกี่ยวกับการปั่นราคา บางคนโต้แย้งว่า การกระทำของนักลงทุนรายย่อยใน “WallStreetBets” เท่ากับการปั่นราคาตลาด และเรียกร้องให้มีการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น สำหรับการซื้อขายที่ได้รับแรงหนุนจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งคนอื่นๆ โต้แย้งว่า การกระทำของกองทุน hedge funds เช่น การ short selling อย่างรุนแรง ก็สมควรได้รับการตรวจสอบเช่นกัน เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การไต่สวนของรัฐสภาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสมาชิกรัฐสภาตั้งคำถามถึงแนวทางปฏิบัติของทั้งกองทุน hedge funds และแพลตฟอร์มการซื้อขาย เช่น Robinhood ซึ่งจำกัดการซื้อขายหุ้น GameStop ชั่วคราว ท่ามกลางช่วงที่เกิดความโกลาหลดังกล่าว

ประเด็นสำคัญ: ปรากฏการณ์ GameStop เผยให้เห็นช่องว่างในกฎระเบียบตลาดปัจจุบันและกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการสร้างตลาดที่ยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่หน่วยงานกำกับดูแลจะต้องปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์การซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบที่อาจส่งผลต่อกิจกรรมการซื้อขายและตลาดโดยรวม 

บทเรียนที่ 8 : บทบาทของแพลตฟอร์มการซื้อขาย

การดำเนินการของแพลตฟอร์มการซื้อขายอย่าง Robinhood ในช่วงที่ GameStop ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยRobinhood ซึ่งเคยวางตำแหน่งตัวเองเป็นพลังประชาธิปไตยในด้านการเงิน ได้ทำการระงับการซื้อหุ้น GameStop ไว้ชั่วคราว โดยอ้างถึงความกังวลเรื่องสภาพคล่อง 

การดำเนินการดังกล่าวทำให้บรรดานักลงทุนรายย่อยจำนวนมากไม่พอใจ เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่า แพลตฟอร์มกำลังปกป้องผลประโยชน์ของสถาบันมากกว่าผลประโยชน์ของพวกเขา

ประเด็นสำคัญ: แพลตฟอร์มการซื้อขายมีบทบาทสำคัญในพลวัตของตลาดและต้องรักษาสมดุลระหว่างความรับผิดชอบต่อผู้ใช้งานกับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและสภาพคล่อง เรื่องราวของ GameStop แสดงให้เห็นว่า แพลตฟอร์มอาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก เมื่อตลาดผันผวน นักลงทุนควรตระหนักถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แพลตฟอร์มการซื้อขาย และเข้าใจว่าการเข้าถึงตลาดอาจถูกจำกัดได้ในช่วงที่มีความผันผวนสูง

บทเรียนที่ 9 : พลังอำนาจระหว่างนักลงทุนรายย่อย กับ นักลงทุนสถาบัน

ปรากฏการณ์ GameStop เปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจที่รับรู้ได้ ระหว่างนักลงทุนรายย่อยกับนักลงทุนสถาบัน โดยทั่วไป นักลงทุนสถาบันมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเคลื่อนไหวของตลาด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการที่ประสานงานกันของนักลงทุนรายย่อยบนแพลตฟอร์ม Reddit ได้ท้าทายอำนาจเหล่านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยสามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาดได้เช่นกัน

ประเด็นสำคัญ: ความสมดุลของขั้วอำนาจแบบดั้งเดิมระหว่างนักลงทุนรายย่อย กับนักลงทุนสถาบัน กำลังเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่นักลงทุนสถาบันยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาด นักลงทุนรายย่อยได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสามารถมีอิทธิพลต่อราคาและความรู้สึกของตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน ทั้งสองกลุ่มจำเป็นต้องพิจารณาการกระทำและกลยุทธ์ของกันและกันอย่างรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนรายย่อยควรตระหนักถึงอำนาจร่วมกันของพวกเขา ในขณะที่ก็ต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแบบเก็งกำไรด้วย

บทเรียนที่ 10 : ความจำเป็นของความโปร่งใสและความไว้วางใจ

เหตุการณ์ GameStop เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีความโปร่งใส และความไว้วางใจในตลาดการเงิน นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากรู้สึกถูกทรยศ เมื่อแพลตฟอร์มการซื้อขายจำกัดการเข้าถึงหุ้น GameStop ในขณะที่บางคนตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของแนวทางปฏิบัติที่กองทุน hedge funds ใช้ ซึ่งความไว้วางใจที่ลดลงนี้ทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีความโปร่งใสมากขึ้นในวิธีการดำเนินงานของตลาดและการตัดสินใจซื้อขาย

ประเด็นสำคัญ: ความโปร่งใสและความไว้วางใจมีความสำคัญต่อการทำงานของตลาดการเงินที่แข็งแรง นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน ต้องการข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของตลาด บทบาทของผู้เล่นที่แตกต่างกัน และกฎเกณฑ์ที่ควบคุมกิจกรรมการซื้อขาย การสร้างและรักษาความไว้วางใจต้องอาศัยความโปร่งใสจากแพลตฟอร์มการซื้อขาย กองทุน hedge funds  และหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุนควรสนับสนุนความเปิดเผยและความยุติธรรมที่มากขึ้นในตลาด เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้เข้าร่วมทุกคนมีสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน

ปรากฏการณ์หุ้น GameStop ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของโลกการเงิน โดยได้ให้บทเรียนมากมายแก่ผู้ลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล และผู้มีส่วนร่วมในตลาด โดยเน้นย้ำถึงอำนาจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายย่อย, อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ความเสี่ยงของการ short selling และความจำเป็นในการมีความรู้ทางการเงินที่มากขึ้น 

นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังเปิดเผยจุดอ่อนของกองทุน hedge funds กระตุ้นให้เกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการปั่นราคาตลาด และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความโปร่งใสและความไว้วางใจ

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ นักลงทุนมือใหม่ หรือเป็นเพียงแค่ผู้ที่สนใจในตลาดหุ้น ปรากฏการณ์ GameStop จะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแรงผลักดันที่ขับเคลื่อนโดยพฤติกรรมของตลาด ปรากฏการณ์นี้ได้ช่วยเตือนใจเราว่า ในโลกของการลงทุน ความรู้ กลยุทธ์ และความสามารถในการปรับตัวมีความสำคัญมากกว่าที่เคย เมื่อเราก้าวไปสู่การลงทุน การทำความเข้าใจบทเรียนเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความซับซ้อนของภูมิทัศน์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้

ที่มา : sfctoday