ในขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐอเมริกาในปี 2024 ใกล้เข้ามา สกุลเงินดิจิทัลก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในแวดวงการเมือง แม้ว่าจะไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในเวทีดีเบตล่าสุดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของคริปโตเคอร์เรนซีกำลังขยายตัวในด้านการเงินและเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังนักลงทุนสถาบันหลายรายที่ได้ยื่นขออนุมัติกองทุน Spot BTC ETF รวมถึงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น MicroStrategy ที่หันมาใช้ Bitcoin เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างงบดุลของบริษัท เพื่อรับมือกับปัญหาหนี้สิน นับเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะทางเลือกทางการเงินที่มีความยืดหยุ่น
สถานการณ์วิกฤตหนี้สหรัฐฯ
ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยแตะระดับ 35.3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในขณะที่ Elon Musk มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลที่สูงอย่างต่อเนื่อง กำลังผลักดันให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะล้มละลาย และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มหนี้สาธารณะอีก 16 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2035 ซึ่งจะทำให้วิกฤตการณ์นี้รุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ปัจจุบัน รัฐบาลต้องจ่ายเงินออกไปไม่น้อยกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน และต้องรับภาระดอกเบี้ยหนี้อีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
Bitcoin จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของสหรัฐฯ ได้อย่างไร
Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง “พ่อรวยสอนลูก” (Rich Dad Poor Dad) ได้แนะนำให้นักลงทุนเริ่มออมเงินใน Bitcoin และลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากเขาเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นทางเลือกที่มั่นคงมากกว่าในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Kiyosaki ยังแสดงความเห็นว่า วิกฤตหนี้ของสหรัฐฯ เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและยากจะแก้ไขในเร็ว ๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็น Donald Trump หรือ Kamala Harris ก็ตาม ซึ่งวิกฤตดังกล่าวจะยังคงสร้างความท้าทายต่อระบบการเงินของประเทศอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Nayib Bukele แห่งเอลซัลวาดอร์ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการชำระหนี้มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์พร้อมดอกเบี้ยได้ทันเวลา โดยการใช้กลยุทธ์ที่เน้น Bitcoin ของประเทศ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินในระดับประเทศ
ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์ได้ซื้อ Bitcoin วันละ 1 BTC ในช่วง 665 วันที่ผ่านมา และปัจจุบันถือ Bitcoin อยู่ราว ๆ 5,871 BTC มูลค่าประมาณ 342 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกลยุทธ์นี้ยังจุดกระแสการพูดคุยเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าซื้อเหรียญ Bitcoin ในระดับใหญ่เช่นนี้
ที่มา : coinpedia