ผู้สร้างเกมมือถือยุคบุกเบิกอย่าง Flappy Bird ได้ออกมาปฏิเสธการเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่อ้างว่า จะนำเกมนี้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากเกมได้หยุดพักไปเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งมีเบาะแสบนโลกออนไลน์บางอย่าง ที่บ่งชี้ว่าเกมที่กล่าวถึงอาจมีความเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี
Dong Nguyen โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 15 กันยายน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 เพื่อตำหนิถึงบริษัทที่วางแผนจะฟื้นคืนชีพให้กับเกมนี้อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาได้ครอบครองจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไปเมื่อช่วงต้นปีนี้
เมื่อวันที่ 13 กันยายน กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า The Flappy Bird Foundation กล่าวว่าพวกเขาจะเปิดตัว Flappy Bird อีกครั้ง โดยอ้างในโพสต์บน X ว่า พวกเขาได้ “จัดการสิทธิทางกฎหมายและทำงานร่วมกับผู้สร้างดั้งเดิม” เพื่อเปิดตัวเกมดังกล่าว
ในขณะที่ โพสต์ของ Nguyen กล่าวว่า “ผมไม่ได้ขายอะไร ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับเกมนี้ และผมก็ไม่สนับสนุนคริปโตด้วยเช่นกัน”
ที่มา: Dong Nguyen
บริษัท The Flappy Bird Foundation กล่าวว่า พวกเขาได้รับสิทธิในเกม Flappy Bird จากบริษัท Gametech Holdings LLC
Gametech ได้ยื่นคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Flappy Bird ของ Nguyen เมื่อปีที่แล้ว และได้รับสิทธิเหนือเครื่องหมายนี้ในเดือนมกราคม หลังจากที่สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) ตัดสินว่า Nguyen ได้ละทิ้งสิทธิ์และทำการยุติสิทธิ์ของเขาลง
Flappy Bird เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2013 เป็นเกมมือถือแนว side-scrolling ที่ผู้เล่นต้องแตะหน้าจอโทรศัพท์เพื่อพานกบินผ่านช่องว่างของท่อสีเขียว โดยคะแนนจะนับจากจำนวนท่อที่นกของพวกเขาสามารถผ่านไปได้สำเร็จ
ในช่วงต้นปี 2014 เกมนี้กลายเป็นไวรัลและเป็นเกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store โดย Nguyen เคยกล่าวว่าเกมนี้ทำรายได้วันละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2014
หลังจากนั้น Nguyen ได้ปลดเกมออกจากตลาดอย่างกะทันหันหลังจากเปิดตัวเพียง 9 เดือน ในช่วงที่เกมกำลังได้รับความนิยมสูงสุด โดยเขาโพสต์บน X ว่า “ผมไม่สามารถทนสิ่งนี้ได้อีกต่อไป” และภายหลังเขาบอกกับ Forbes ว่าเขาถอดเกมออกเพราะมันกลายเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เสพติด”
“Flap-to-earn” ร่องรอย ‘ คริปโต’ ในตัวเกมเวอร์ชันใหม่
เว็บไซต์ของ Flappy Bird Foundation ที่นำเกมนี้กลับมาอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าอาจมีการใช้คริปโตในเกม เมื่อมีการเปิดตัว พร้อมกับคำใบ้เกี่ยวกับ โทเค็นและการเปิดตัวบน Solana และโมเดลเกมที่เล่นแล้วได้รับรายได้แบบ play-to-earn
ในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 12 กันยายน นักวิจัย Varun Biniwale พบหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ ซึ่งปัจจุบันถูกนำลงจากเว็บไซต์ไปแล้ว โดยกล่าวว่า Flappy Bird “จะบินสูงยิ่งกว่าที่เคยบน Solana เมื่อมันทะยานเข้าสู่ Web 3.0”
หน้าเว็บไซต์ดังกล่าวยังระบุอีกว่า เกมนี้จะเป็น “เกม Web 3” ที่มีโมเดล “play and earn” และยังพูดถึง “stake to own” และ “การแจก airdrop ฟรี”
หน้าเว็บที่ถูกลบไปแล้วแสดงให้เห็นว่า Flappy Bird เวอร์ชันใหม่นี้อาจมีความเชื่อมโยงกับคริปโต ที่มา: Varun Biniwale
หน้าจอระหว่างการโหลดของต้นแบบเกมยังได้กล่าวถึง “$FLAP token” บนบล็อกเชน The Open Network (TON) ที่เชื่อมโยงกับ Telegram ด้วย
อีกหนึ่งต้นแบบของเกมได้ทำการเชิญชวนให้ผู้เล่นเชื่อมกระเป๋าเงิน TON เพื่อรับรางวัล และยังมีป๊อปอัพแยกต่างหากที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ “กิจกรรม flap-to-earn พิเศษสำหรับ Telegram” ซึ่งเป็นการทำการตลาดต่อยอดจากเกม tap-to-earn ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในแอปส่งข้อความตัวนี้
ป๊อปอัพแสดงให้เห็นว่า Flappy Bird อาจมีองค์ประกอบของเกมคริปโตที่เชื่อมโยงกับ Telegram ที่มา: Varun Biniwale
Biniwale ชี้ไปที่บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังเกมนี้ คือ Michael Roberts หัวหน้าสตูดิโอของบริษัทพัฒนาเกมคริปโต 1208 Production ซึ่งเขาเขียนบน LinkedIn ว่าเขาเป็น “ผู้ผลักดันการกลับมาของ Flappy Bird”
อย่างไรก็ตาม Biniwale ให้ความเห็นว่า กระทำครั้งนี้อาจเป็นโปรเจกต์ที่ไม่โปร่งใส ที่พยายามจะทำกำไรจากความรู้สึกคิดถึงเกมที่มีผู้คนรักมากมาย ในขณะเดียวกันก็แอบหวังจะทำเงินจากการรวมมันเข้ากับอุตสาหกรรมคริปโตและ Web3
- ที่มาข่าว:cointelegraph
- ที่มาภาพ:dexerto