นักวิเคราะห์จาก Bernstein แนะนำว่า DeFi อาจทำผลงานได้ดี หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งสภาพคล่องระหว่างประเทศและส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดคริปโต
นักวิเคราะห์ Gautam Chhugani, Mahika Sapra และ Sanskar Chindalia จาก Bernstein ระบุว่าอุตสาหกรรม DeFi สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเทรดเดอร์ทั่วโลกสามารถให้สภาพคล่องในตลาดกระจายศูนย์สำหรับ Stablecoin ที่หนุนด้วยดอลลาร์สหรัฐ ด้วยวิธีนี้ DeFi สามารถใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขเฉพาะตัวของตลาดในสหรัฐฯ และสร้างผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์
มุมมองนี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของ Arthur Hayes ในเดือนสิงหาคม 2024 เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ กับสกุลเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะ ‘เงินเยน’ ของญี่ปุ่น เทรดเดอร์ทั่วโลกสามารถใช้ส่วนต่างนี้ผ่าน DeFi เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างกำไรใหม่ ๆ
“เมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยใกล้เข้ามา ผลตอบแทนจาก DeFi กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง นี่อาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดเครดิตคริปโตกลับมาฟื้นตัวและดึงดูดความสนใจมาสู่ตลาด DeFi และ Ethereum อีกครั้ง” นักวิเคราะห์จาก Bernstein กล่าว
การคาดการณ์เหล่านี้ทำให้ Bernstein ตัดสินใจเพิ่มโปรโตคอลสภาพคล่องบน Ethereum อย่าง Aave เข้าสู่พอร์ตการลงทุนของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทได้เพิ่ม Aave เข้ามาแทนที่โปรโตคอลอนุพันธ์สองตัวคือ GMX และ Synthetix ที่ถูกตัดออกไป
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงสองแนวโน้มหลักในตลาดที่ Bernstein คาดการณ์ไว้ ประการแรก คือ ตลาดสินเชื่อและสภาพคล่องระหว่างประเทศอาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกำไรในระยะยาว ประการที่สอง แม้ว่าผลงานล่าสุดของ Ethereum จะไม่ดีนัก แต่ Bernstein ยังคงเดิมพันใน ETH และโปรโตคอลที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนของมัน
ในขณะที่เดือนกันยายนมักเป็นเดือนที่อ่อนแอสำหรับตลาดการเงินทั่วโลก ดังนั้นความท้าทายเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ครั้งสำคัญที่ตลาดคริปโตต้องฝ่าฟันเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายปัจจัยที่ยังไม่แน่ชัด หากการลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นจริง อาจอยู่ระหว่าง 0.25% ถึง 0.75% ดังนั้นการคาดการณ์ที่กล้าหาญของ Bernstein อาจช่วยสร้างความหวังและมุมมองเชิงบวกในวงการคริปโตได้
ที่มา:beincrypto