Jamie Dimon ซีอีโอคนปัจจุบันของ JPMorgan Chase อ้างว่าธนาคารที่เขาดูแล ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เป็นผู้ใช้งานบล็อกเชนจริง ๆ และใช้งานมันมากที่สุดเป็นลำดับต้น ๆ แต่เมื่อถามถึงในแง่ของความเป็นนวัตกรรมตัวเขากลับกล่าวว่าบล็อกเชนก็เป็นแค่ฐานข้อมูลเท่านั้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า Dimon เป็นคนที่ไม่ชอบคริปโตสักเท่าไรและมักจะเปรียบ Bitcoin เป็นเหมือนก้อนหินไร้ค่า (ในบทสัมภาษณ์จริงเขาเปรียบมันเสมือน pet rock)
แม้เขาจะเกลียดชังคริปโตแต่ดูเหมือน Dimon จะเริ่มยอมรับในเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังมันอย่างบล็อกเชน ซึ่งเขาระบุว่ามันเป็นเทคโนโลยีทีดี สามารถช่วยให้พวกเขาสามารถแบ่งปันข้อมูล และเพิ่มความเชื่อมั่นระหว่างธนาคารและลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และขนย้ายเงินได้สะดวก
นับตั้งแต่ปี 2020 ทาง JPMorgan ได้ทำการ fork เวอร์ชันหนึ่งของบล็อกเชน Ethereum เพื่อสร้างเครือข่ายส่วนตัวของตนเองในชื่อของ Onyx ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมการชำระเงินขนาดใหญ่ การให้ยืมและยืมเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ รวมถึงการชำระเงินข้ามพรมแดน โดยตัวของมันได้ทำธุรกรรมไปแล้วมากกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม Dimon เคยกล่าวไว้ว่าถ้าเขาได้นั่งเก้าอี้ในรัฐบาลเขาจะทำการแบนคริปโตเสีย ซึ่งเรื่องตลกร้ายก็คือเขาเป็นหนึ่งในคนที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องย้อนแย้งเพราะทรัมป์มีแนวคิดสนับสนุนคริปโต
และแม้ว่าความเห็นส่วนตัวของเขาจะไปในฝั่งที่ปฏิเสธการมีอยู่ของคริปโต แต่เขาก็ไม่ได้นำมันมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของเขามาก มิหนำซ้ำยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าของธนาคารเข้าถึงคริปโตได้ด้วย โดยระบุว่าตัวของเขาเชื่อในประเทศเสรี ดังนั้นถ้าลูกค้าต้องการเขาก็จะทำให้
ที่มา : the block