ดูเหมือนว่า Stablecoins และคริปโตเคอร์เรนซีจะกำลังเริ่มเข้ามาแทนที่สกุลเงิน Fiat มากขึ้นในบางประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต
รายงานล่าสุดจาก Chainalysis ได้ออกมาเปิดเผยว่า เอเชียตะวันออกกลายเป็นเศรษฐกิจคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลก โดยมีมูลค่าคริปโตมากกว่า 8.9% จากมูลค่าคริปโตทั้งหมดทั่วโลกในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2023 ถึงกรกฎาคม 2024
โดยการนำคริปโตและ Stablecoins มาใช้มากขึ้นในภูมิภาคนี้ ส่วนหนึ่งมาจากประเทศที่มีปัญหาการด้อยค่าของสกุลเงิน Fiat และอัตราเงินเฟ้อสูง
Maruf Yusupov ผู้ร่วมก่อตั้ง Deenar ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ Stablecoin ที่สำรองด้วยทองคำ ได้ออกมาเปิดเผยว่าในหลายตลาดเกิดใหม่ Stablecoins กำลังค่อยๆ เข้ามาแทนที่เงิน Fiat เนื่องจากต้นทุนที่ต่ำกว่าและความสะดวกในการใช้ และถ้าหากหากแนวโน้มนี้ยังคงต่อไป มันอาจลดความสำคัญของธนาคารแบบดั้งเดิมได้
โดย Stablecoins กำลังกลายเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าและรวดเร็วกว่าสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ โดยเฉพาะในเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งการโอนเงินผ่านธนาคารในปี 2024 มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 7.34% ตามข้อมูลจาก Statista ในขณะที่เอเชียตะวันออกได้รับมูลค่าคริปโตมากกว่า 400 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือกิจกรรมคริปโตในภูมิภาคนี้ ส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนโดยนักลงทุนระดับสถาบันและนักลงทุนมืออาชีพ โดยรายงานระบุว่า “เอเชียตะวันออกมีสัดส่วนการโอนขนาดใหญ่จากนักลงทุนมืออาชีพสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น”
นอกจากนี้สถาบันยังเลือกใช้บริการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEXs) เป็นหลัก เนื่องจากมีโอกาสทำกำไรจากความต่างของราคาได้มากกว่า ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพยังคงเลือกใช้บริการจากศูนย์แลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEXs)
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Stablecoins กำลังดึงดูดความสนใจจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยธนาคารกลางอาจพยายามจำกัดผลกระทบต่อความสำคัญของเงิน Fiat
“แม้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายทั้งจากกฎระเบียบและความเสี่ยงในการหลอกลวงที่อาจเพิ่มขึ้น” Yusupov กล่าวเสริม
ที่มา: Cointelegraph