<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitget คาด TON จะแยกตัวจาก Telegram ในอีก 2 ปีข้างหน้า ชี้ราคาเตรียมพุ่งทะยาน!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซี Bitget ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ใน The Open Network (TON) Foundation ได้เผยแพร่รายงานวิจัยฉบับใหม่เกี่ยวกับระบบนิเวศของ TON โดยรายงานนี้ได้เสนอข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับทิศทางและการพัฒนาของ TON ในอนาคต ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่โดดเด่นคือความสัมพันธ์ระหว่าง TON และแอปพลิเคชัน Telegram ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองในวงการคริปโตเคอร์เรนซีอย่างใกล้ชิด

ในรายงานดังกล่าว Bitget ได้แนะนำว่าระบบนิเวศของ TON อาจจำเป็นต้องพิจารณาการแยกตัวออกจาก Telegram เนื่องจากมีความกังวลด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับแอปส่งข้อความชื่อดังตัวนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการขยายตัวของ TON ในระยะยาว การแยกตัวออกจาก Telegram จึงถูกมองว่าอาจเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่า บล็อกเชน TON จะยังคงพึ่งพาฐานผู้ใช้งานของ Telegram ในปี 2024 พร้อมเสริมด้วยว่า:

“ในระยะยาว เมื่อระบบนิเวศได้รับการพัฒนา และโครงสร้างพื้นฐานได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็มีแนวโน้มว่า TON จะ “ยุติการใช้งานจาก Telegram” เพื่อลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ Telegram”

นอกจากการคาดการณ์ข้างต้น รายงานของ Bitget ยังคาดการณ์ว่า Toncoin ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีดั้งเดิมของบล็อกเชน TON ราคามีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับแนวโน้มของตลาดโดยรวม

ซึ่ง Bitget คาดการณ์ว่า Toncoin “น่าจะทำผลงานได้ดีกว่า” ผลตอบแทนจาก Bitcoin ในรูปแบบ Spot  สำหรับในช่วงตลาดขาขึ้น นอกจากนี้ ระบบนิเวศของ TON จะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันมากขึ้น โดยสถาบันส่วนใหญ่จะนิยมซื้อ TON แบบ Over-the-Counter (OTC) 

ระบบนิเวศของ TON มีการเติบโต อย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีกิจกรรมมากมาย ที่เกิดขึ้น จากการได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วของ Telegram Mini Apps อย่างเช่น Notcoin และ Hamster Kombat 

โดยในเดือนกรกฎาคม 2024 มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) ในโครงการ TON ต่าง ๆ พุ่งสูงสุดที่ 776.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลมากกว่า 5,300% เมื่อเทียบกับปีก่อน

​​ตามข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) ของ TON ได้ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยแตะระดับ 420 ล้านดอลลาร์ เมื่อ วันที่ 24 กันยายน หลังจากลดลง 50% ในช่วงปลายปี 2024

ที่มา : cointelegraph