เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง BlackRock สามารถดึงเงินลงทุนให้เข้าสู่กองทุนแลกเปลี่ยนซื้อขาย Bitcoin แบบสปอต (Spot Bitcoin ETF) ได้มากถึง 184.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการไหลเข้าที่มากที่สุดในวันเดียวของเดือนกันยายน ที่ปกติแล้วถือว่าเป็นเดือนที่มีแนวโน้มขาลงสำหรับ Bitcoin
ในขณะที่กองทุน Bitwise Bitcoin ETF (BITB) กลับเป็นกองทุนเดียวที่มีการไหลเข้าของเงินทุนในวันที่ 25 กันยายน โดยดึงเข้ามาได้ 2.1 ล้านดอลลาร์ ทว่ากองทุน Fidelity Wise Bitcoin Origin Fund (FBTC) และ Ark 21Shares Bitcoin ETF (ARKB) กลับเผชิญการไหลออกของเงินทุนที่ 33.2 ล้านดอลลาร์ และ 47.4 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ตามข้อมูลจาก Farside
การไหลเข้าของ BlackRock’s iShares Bitcoin Trust (IBIT) ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ ARKB ได้ทำสถิติที่ 99.3 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 กันยายน และ IBIT เคยดึงเงินเข้ามาได้ 98.9 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
แนวโน้มนี้ ถือเป็นการไหลเข้าของเงินทุนต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ของกองทุน Bitcoin ETF รวมทั้งสิ้น 496.7 ล้านดอลลาร์ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดฐาน (basis points) ซึ่งถือเป็นการปรับลดที่อุตสาหกรรมคริปโตจับตามองมาตลอดปี 2024 ในขณะที่หลังจากประกาศ ราคา Bitcoin สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 60,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง
โดย Ki Young Ju ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ CryptoQuant แสดงความคิดเห็นผ่าน X (Twitter) ว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับกองทุน Bitcoin ETF ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ กลับมามีอิทธิพลในการถือครอง Bitcoin มากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph