<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หนุ่มพันทิปซวยจัด! ซื้อขายคริปโตแบบ P2P แต่กลับโดนอายัดบัญชีทุกธนาคาร

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวานนี้ (วันที่ 25 กันยายน ) ผู้ใช้พันทิปหมายเลข 1055283 ได้ตั้งกระทู้ รีวิวการโดนอายัดบัญชีทุกธนาคาร ซึ่งเป็นกระทู้ที่ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย และมีคนเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ หนุ่มพันทิปรายหนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์สุดโชคร้าย จากการซื้อขายคริปโตเคอเรนซีแบบ P2P (Peer-to-Peer) จนต้องพบกับการอายัดบัญชีธนาคารทุกช่องทาง เนื่องจากความเข้าใจผิดในกระบวนการทางกฎหมาย และการแจ้งความของผู้เสียหายรายหนึ่ง

เจ้าของโพสต์ได้เขียนกระทู้เล่าเรื่องราวเริ่มต้นจากการที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง (ขอเรียกว่านางสาว B) ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ผ่านการแกล้งโทรผิดเข้ามาก่อน จากนั้นก็ขอแอด Line และคุยกันจนหลงเชื่อ แล้วเธอจึงให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปบัตรประชาชนและรหัสผ่านของเธอ 

จากนั้นมิจฉาชีพก็ได้ชักชวนให้เธอลงทุนในคริปโต และสมัครแอปพลิเคชันเพื่อเทรดแบบ P2P แต่เธอก็ดันมาซื้อเหรียญคริปโตกับเจ้าของโพสต์ ซึ่งการเทรดแบบ P2P ผู้ซื้อจะได้ข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ขายไปทั้งหมด เพื่อทำการโอนเงินเข้าธนาคาร 

การซื้อขายที่กลายเป็นปัญหา

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เจ้าของโพสต์ได้ขายเหรียญคริปโตให้กับนางสาว B ผ่านแอปเทรด ซึ่งหลังจากตรวจสอบก็พบว่าชื่อบัญชีธนาคารที่โอนเงินมาตรงกับชื่อในแอปของนางสาว B เจ้าของโพสต์ก็ทำการปล่อยเหรียญให้ และการซื้อขายนี้ก็เสร็จสิ้นตามกระบวนการปกติ 

แต่เมื่อเหรียญถูกโอนเข้ากระเป๋าเงินของนางสาว B แล้ว มิจฉาชีพก็โอนเหรียญนั้นต่อไปยังกระเป๋าเงินของตนเอง ทำให้นางสาว B ไม่สามารถติดตามหรือดึงเงินคืนกลับมาได้

ความเข้าใจผิดและผลกระทบที่ตามมา

เมื่อนางสาว B รู้ตัวว่าถูกโกง เธอก็พยายามทวงคืนจากมิจฉาชีพ แต่ก็ถูกบล็อกทุกช่องทาง ไม่สามารถติดต่อได้ เธอก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่หมายเลข 1441 และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ โดยกรอกข้อมูลบัญชีปลายทางคนที่เธอโอนไปให้ทั้งหมด ในเว็บ thaipoliceonline ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 5 คน รวมถึงบัญชีเจ้าของโพสต์คนนี้ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วย เนื่องจากเจ้าของโพสต์เป็นผู้ซื้อขายเหรียญปกติ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง 

อย่างไรก็ตาม การแจ้งความนี้ทำให้บัญชีธนาคารของเจ้าของโพสต์ และคนอื่นๆ ถูกอายัดทั้งหมดในวันที่ 5 กันยายน 

ความพยายามในการเคลียร์ปัญหา

เจ้าของโพสต์ได้เข้าไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ และนางสาว B ผู้ที่แจ้งความในวันที่ 15 กันยายน ทั้งตำรวจและนางสาว B ต่างเข้าใจดีว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง แต่กระบวนการแจ้งความผ่าน 1441 ทำให้ไม่สามารถถอนแจ้งความได้ในทันที พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจ (บช.สอท.)  ปัจจุบันผู้ต้องสงสัยบางรายได้เข้าพบเจ้าหน้าที่แล้ว แต่บางรายยังไม่ได้มาให้ปากคำ ทำให้เรื่องนี้ยังไม่สามารถยุติได้

จากการที่เจ้าของโพสต์โดนอายัญบัญชี ก็ส่งผลกระทบให้เขาไม่สามารถเอาเงินออกมาใช้ได้

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า การซื้อขายคริปโตแบบ P2P เป็นการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หากไม่มีความรู้ และความระมัดระวังเพียงพอ อาจนำไปสู่ ความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชื่อเสียงได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้พันทิปรายนี้

นอกจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมและการถูกหลอกลวงจากบุคคลที่สามแล้ว การซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีแบบ P2P ในประเทศไทยยังเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย เนื่องจากขาดการกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ผู้บริโภคไม่มีช่องทางในการเรียกร้องสิทธิ์หากเกิดปัญหาขึ้น การทำธุรกรรมนอกระบบกฎหมายอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงทางกฎหมายอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย ดังนั้น การเลือกซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังเผชิญปัญหาบัญชีธนาคารถูกอายัด และต้องการทราบขั้นตอนการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาและเรียกร้องสิทธิ์ของคุณ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์

ที่มา :  pantip