เมื่อเร็ว ๆ นี้มีรายงานว่าลูกค้านับหมื่นรายของ Bank of America ได้แจ้งเรื่องว่าพวกเขานั้นเห็นเงินในบัญชีตัวเองสูญหายจนเหลือ 0 ในขณะที่ตัวเลข “หนี้” ของพวกเขายังคงปรากฏอยู่
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ระบบเครือข่ายของ Bank of America นั้นล่มเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าได้ทำการร้องเรียนเข้ามายังธนาคารมากถึง 18,000 ราย ในระยะเวลาเพียงแค่ 15 นาที และแม้ในปัจจุบันปัญหาจะได้รับการแก้ไขแล้วแต่ทาง Bank of America ก็ยังไม่ได้ออกมาแถลงถึงสาเหตุที่ทำให้ระบบล่ม
อย่างไรก็ตามลูกค้าบางรายกลับระบุว่าปัญหาของพวกเขายังไม่ได้รับการแก้ไข และมันเป็นเวลามากกว่า 8 ชั่วโมงแล้วที่เงินในบัญชีของพวกเขานั้นสูญหายไป ทว่าหนี้ที่พวกเขาติดค้างกลับยังคงแสดงผลได้ตามปกติ
ขณะเดียวกันลูกค้าบางรายได้ทำการไปติดต่อที่สาขาของธนาคารเพื่อทำการฝากถอนเงิน แต่พวกเขาก็ถูกปฏิเสธโดยพนักงาน ส่วนเครื่อง ATM ก็เกือบจะไม่สามารถใช้งานได้โชคยังดีที่พวกเขาสามารถถอนเงินได้ แต่ตัวเลขเงินในบัญชีนั้นยังคงไม่แสดงผลอยู่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้กลุ่มสาวก Bitcoin ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียนที่ดี ที่จะทำให้ผู้คนรู้ว่าพวกเขานั้นควรที่จะเก็บรักษาและดูแลเงินของพวกเขาเอง ไม่ใช่พึ่งพาแต่ธนาคาร โดยพวกเขาชี้ให้เห็นว่าเครือข่ายของ Bitcoin นั้นไม่เคยล่มเลยแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ มีนาคม 2013 ที่ในตอนนั้นเครือข่ายยังคงมีการรวมศูนย์อำนาจอยู่
แต่ทว่า ในกรณีของบล็อกเชนอื่น ๆ อาจจะไม่สามารถอวดอ้างได้ถึงข้อดีตรงจุดนี้ได้ โดยจะเห็นได้ว่า แม้แต่โปรเจกต์ขนาดใหญ่อย่าง Solana ก็มีระบบล่มให้เห็นกันบ้างในปีนี้ เช่นเดียวกันกับเว็บเทรดคริปโตต่าง ๆ ทำให้ช่องทางเหล่านี้ยังไม่เหมาะสมในการดูแลรักษาเงินของผู้ใช้งาน
ที่มา : Cointelegraph