เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม Ho Duc Phoc ได้ลงนามในเอกสารกลยุทธ์การใช้งานและการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนระดับชาติ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศมีความต้องการที่จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีใหม่นี้โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2025
ตามรายงานท้องถิ่น เวียดนามมุ่งหวังที่จะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีบล็อกเชนในภูมิภาคภายในปี 2030 โดยมีแผนจะพัฒนาศักยภาพด้านบล็อกเชนผ่านการวิจัย การใช้งาน และการประยุกต์ใช้ ซึ่งทางการเวียดนามเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพสูงและจะเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยพวกเขามีแผนที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้
เพื่อให้แผนงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ ทางรัฐบาลจึงมีแผนที่จะสร้างกรอบ framwork สำหรับบล็อกเชนในระดับชาติ ซึ่งจะส่งผลให้นวัตกรรมด้านบล็อกเชนเจริญรุ่งเรือง นอกเหนือจากนี้ทางรัฐบาลยังมีแผนที่จะสร้างพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่พิเศษสำหรับการทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์บล็อกเชน และมีแผนที่จะดึงตัวผู้เชี่ยวชาญมาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลเวียดนามได้ออกมาแถลงถึง “สิ่งจำเป็น 5 ประการ” เพื่อเป็นผู้นำในด้านบล็อกเชน โดยจะประกอบไปด้วย การปรับกฎหมายให้สมบูรณ์ที่สุด , การสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ , การสร้างระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมบล็อกเชน , การพัฒนาทักษะคนในด้านบล็อกเชน และการประชาสัมพันธ์การพัฒนาบล็อกเชน ทั้งในด้านของการวิจัย นวัตกรรม และการใช้งาน รวมไปถึงการจับมือเป็นพันธมิตรกับนานาประเทศ
รายงานยังเปิดเผยอีกด้วยว่า แผนการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกันในหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร คณะกรรมการรหัสรัฐบาล หน่วยงานการศึกษาและการฝึกอบรม และหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังมีความคิดที่จะร่วมมือกับสมาคมบล็อกเชนแห่งเวียดนาม อีกด้วย ซึ่งพวกเขาจะเข้ามาช่วยเหลือในด้านการสนับสนุน startups ท้องถิ่นที่ทำในเรื่องของบล็อกเชน และทำให้ผู้คนสนใจในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปิดรับคริปโตมากที่สุดในโลก และเป็นบ้านให้กับบริษัทในอุตสาหกรรมจำนวนหลายบริษัท ดังนั้นถ้ากลยุทธ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จจะทำให้ประเทศก้าวล้ำหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน
ที่มา : Cryptopolitan