<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Arthur Hayes คาดนโยบาย QE และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จะส่งผลดีต่อ Bitcoin 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX และ Maelstrom มีความเห็นว่า แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของจีนจะส่งผลดีต่อ Bitcoin

Arthur Hayes มองว่า จีนจะผลักดันให้เงินหยวนกลับสู่การหมุนเวียนในระบบอีกครั้ง ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับ Bitcoin 

รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ดำเนินมาตรการควบคุมบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจำกัดการกู้ยืมที่ไม่รับผิดชอบผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น “สามเส้นแดง (Three Red Lines) ”  

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่ง Arthur Hayes คาดการณ์ว่า จีนจะหันมาใช้นโยบาย QE เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเขาเรียกวิธีนี้ว่า “เคมีบำบัดทางการเงิน (monetary chemotherapy) ”

ฟองสบู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังแตก

เศรษฐกิจจีนพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นให้เช่าที่ดินแก่นักพัฒนา และรายได้จากการเช่านี้ จะสนับสนุนงบประมาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ได้แตกในปี 2020  ส่งผลให้การก่อสร้างหยุดชะงัก บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ผิดนัดชำระหนี้ และธนาคารต้องแบกรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ชนชั้นกลางของจีนซึ่งส่วนใหญ่มีทรัพย์สินผูกติดอยู่กับอสังหาริมทรัพย์ พบว่ามูลค่าลดลงอย่างรวดเร็ว และด้วยอัตราการว่างงานในกลุ่มเยาวชนที่พุ่งสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว Arthur Hayes  จึงเชื่อว่า จีนจะดำเนินนโยบาย QE อย่างเต็มที่ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

“เคมีบำบัดทางการเงิน” และความเชื่อมโยงกับ Bitcoin

Arthur Hayes กล่าวถึง นโยบาย QE ที่กำลังจะเกิดขึ้นของจีนว่า เป็น “เคมีบำบัดทางการเงิน” โดยเขากล่าวว่า มันเหมือนกับการรักษามะเร็งด้วยการสูบฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง ซึ่งธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ได้เริ่มดำเนินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นอย่างเงียบๆ แล้ว

ซึ่งการเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ Arthur Hayes มองว่าสถานการณ์นี้จะทำให้ Bitcoin กลายเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

PBOC ได้ย้ายเงินประมาณ 3 ล้านล้านหยวน เข้าสู่พันธบัตรในประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นจริงใน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ที่ต่างก็พยายามใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกันหลังจากเกิดวิกฤตทางการเงิน พวกเขาเรียนรู้ว่า QE จะได้ผลดีที่สุด เมื่อพิมพ์เงินจำนวนมาก

ปักกิ่งยังคงเกลียด Bitcoin แต่ไม่สามารถหยุดมันได้

การซื้อขาย Bitcoin ในประเทศจีนยังคงเฟื่องฟู แต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย ในขณะที่รัฐบาลได้ห้ามให้มีการแลกเปลี่ยนหยวน-Bitcoin อย่างเป็นทางการในปี 2017 แต่ผู้คนก็พยายามหาทางหลีกเลี่ยง โดยปัจจุบันเว็บเทรดคริปโตขนาดใหญ่ อย่าง Binance และ OKX ดำเนินการแพลตฟอร์มแบบ peer-to-peer ช่วยให้ผู้คนสามารถแปลงหยวนเป็น Bitcoin ได้โดยไม่ต้องมีคู่ซื้อขายโดยตรง

Bitcoin ยังคงเป็นช่องทางที่ปลอดภัยในการหลีกหนีจากภาวะเงินเฟ้อ และแม้จะมีการห้ามการแลกเปลี่ยนโดยตรง แต่แพลตฟอร์มแบบ peer-to-peer ก็ยังคงทำให้ Bitcoin ยังคงอยู่ต่อไป

Arthur Hayes เรียกมันว่า “Sino-LocalBitcoins” โดยเน้นย้ำถึงความฉลาดของนักเทรดชาวจีนที่ยังเทรด ผ่านตลาดใต้ดิน  และ Arthur Hayes มองว่า เมื่อเงินเฟ้อกัดเซาะ ชาวจีนจะหันมาใช้ Bitcoin ที่พวกเขาเคยทำมาก่อน และด้วยท่าทีของรัฐบาลต่อ นโยบาย QE พวกเขาก็จะใช้ Bitcoin อีกครั้ง

ที่มา : cryptopolitan