<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สหรัฐฯ ใกล้บรรลุเป้าหมายถือครอง 1 ล้าน Bitcoin ! ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดคริปโต  

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis (R-WY) เดินขึ้นไปบนเวทีในงานประชุม Bitcoin Nashville โดยถือกระดาษหนึ่งปึกไว้ พร้อมกล่าวว่า “นี่ไง นี่คือร่างกฎหมาย ทุนสำรอง Bitcoin (Bitcoin Reserve) นี่คือช่วงเวลาในการซื้อดินแดนลุยเซียนาของเรา”

4 วันต่อมา วุฒิสมาชิก  Cynthia Lummis ได้นำเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ชุดที่ 118 เรื่อง “การส่งเสริมนวัตกรรม เทคโนโลยี และความสามารถในการแข่งขันผ่านการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดทั่วประเทศ ปี 2024” หรือที่เรียกว่า BITCOIN Act 

ร่างกฎหมายนี้ กำหนดให้มีการโอน Bitcoin ทั้งหมดที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางถือครองไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อเก็บไว้ในกองทุนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ 

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซื้อ Bitcoin “ไม่เกิน 200,000 BTC ต่อปี ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ซึ่งรวมเป็นการซื้อ Bitcoin ทั้งหมด 1,000,000 BTC”

จากนั้นกระทรวงการคลังจะต้องถือ Bitcoin จำนวน 1,000,000 BTC เป็นเวลา อย่างน้อย 20 ปี ก่อนที่กระทรวงการคลังจะพิจารณาขาย และยังกำหนดข้อจำกัดหลายประการ เกี่ยวกับการขาย Bitcoin ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น

ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาถือครองบิตคอยน์อยู่ประมาณ 207,000 BTC ซึ่งพระราชบัญญัติบิตคอยน์กำหนดให้โอน Bitcoin ไปยังกระทรวงการคลัง และถือครอง Bitcoin ไว้เป็นส่วนหนึ่งของเงินสำรองเชิงกลยุทธ์

โดย Bitcoin ที่เหลืออีกจำนวน 793,000 BTC หากซื้อได้ในราคาต่อ 1 BTC อยู่ที่ 76,375 ดอลลาร์ จะมีมูลค่าทั้งหมด 60,545,550,000 ดอลลาร์

แน่นอนว่า การซื้อ  Bitcoin จำนวนมากเช่นนี้ อาจทำให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นก่อนที่การซื้อทั้งหมดจะเสร็จสิ้น ซึ่งแตกต่างจากดอลลาร์ที่ใช้ในการซื้อ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถพิมพ์ Bitcoin ได้ฟรี แต่พวกเขาถูกบังคับให้ซื้อ

พระราชบัญญัติ Bitcoin กำหนดให้รัฐบาล ลดจำนวนเงินทุนสำรองส่วนเกินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประมาณ 4.4 พันล้านดอลลาร์ จาก 6,825,000,000 ดอลลาร์ เหลือ 2,400,000,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังกำหนดให้ รายได้ 6 พันล้านดอลลาร์แรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในแต่ละปี จะถูกนำไปใช้ซื้อ Bitcoin เพื่อเป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์

ปัจจุบันร่างกฎหมายนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภา โดยคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประธานคณะกรรมาธิการคนใหม่ อย่างวุฒิสมาชิก Tim Scott (พรรครีพับลิกัน-เซาท์แคโรไลนา) ซึ่งอาจนำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การลงคะแนนเสียงในคณะกรรมาธิการในช่วงต้นของรัฐสภาชุดที่ 119

ผู้เชี่ยวชาญในวงการบิทคอยน์เชื่อว่า การผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างรวดเร็วมีความสำคัญ เนื่องจากประเทศอื่น ๆ อาจพยายามเร่งดำเนินการในลักษณะเดียวกันก่อนสหรัฐฯ 

วุฒิสมาชิก Lummis ได้แสดงความเห็นว่า ร่างกฎหมายนี้ควรผ่านภายใน 100 วันแรกของรัฐสภาชุดใหม่

การผ่านร่างกฎหมาย BITCOIN Act จะเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดนโยบายด้านสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดบิทคอยน์ทั่วโลก

ที่มา : forbes