<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมการเปิดตัว ‘Bitcoin Options ETF’ ในสหรัฐฯ ถึงเป็นเรื่องใหญ่ในโลกคริปโต ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การเปิดตัวออปชันสำหรับ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต ด้วยศักยภาพในการเพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ ทั้งในระดับสถาบันและรายย่อย  Joe Consorti ผู้บริหารบริษัทดูแลทรัพย์สิน Bitcoin ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ในวิดีโอที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม X 

“การเปิดตัว Option ของ Spot Bitcoin ETF โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกองทุน IBIT (BlackRock) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในด้านพลวัตของราคา ความผันผวน และการยอมรับในระดับสถาบัน” Joe Consorti กล่าว พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของกองทุนนี้ 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน Options Clearing Corporation (OCC) ได้ประกาศว่าอยู่ระหว่างเตรียมการสำหรับการเปิดตัว Option ของ Spot Bitcoin ETF โดยเริ่มต้นจากกองทุน BlackRock iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองทุนที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในวงการ

ด้าน Alison Hennessy หัวหน้าฝ่ายจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ ETP ของ Nasdaq เปิดเผยว่า ทางตลาดหลักทรัพย์กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อลิสต์และเริ่มการซื้อขาย Option ของ Spot Bitcoin ETF โดยตั้งเป้าหมายให้สามารถเปิดตัวได้เร็วที่สุดในวันที่ 19 พฤศจิกายน

ทั้งนี้ Option ของ Spot Bitcoin ETF เป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ให้นักลงทุนมีสิทธิ์ (แต่ไม่ใช่ข้อผูกพัน) ในการซื้อหรือขายหุ้นของ Spot Bitcoin ETF ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและโอกาสในการลงทุนให้กับผู้เล่นในตลาด 

Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF ระดับอาวุโสของ Bloomberg กล่าวว่า นี่คือ “ดีลใหญ่” และได้แชร์วิดีโอของ Consorti บน X เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน

Consorti อธิบายว่า Option เป็นรากฐานสำคัญของตลาดทุน เพราะมันช่วยสร้างสภาพคล่อง, การค้นพบราคาที่ยุติธรรม, และเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนสถาบันที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด “นี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามักมีขนาดใหญ่กว่ามูลค่าตลาดหลักทรัพย์อ้างอิงถึง 10-20 เท่า” Consorti กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบันตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin อยู่ในช่วงที่ยังมีการ “พัฒนาน้อยมาก” และนี่เป็นข้อจำกัดต่อความสมบูรณ์ของตลาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์อนุพันธ์เหล่านี้ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการขนาดใหญ่ของนักลงทุนสถาบันได้ ทั้งในแง่การป้องกันความเสี่ยงและการจัดสรรพอร์ตการลงทุน

นอกจากนี้ Consorti ยังชี้ให้เห็นว่า อนุพันธ์ Bitcoin ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีการซื้อขายผ่านตลาดนอกชายฝั่ง (offshore) หรือการซื้อขายนอกตลาดหลัก (OTC) บนแพลตฟอร์มอย่าง Deribit โดยมีมูลค่าสัญญาเปิดค้าง (Open Interest) อยู่เพียง 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก เนื่องจากนักลงทุนชาวอเมริกันยังไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้ทำให้ Consorti เชื่อมั่นว่า “การจดทะเบียน Option ของ Bitcoin ETF จะช่วยนำ BTC เข้าสู่ตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปลดล็อกโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน”

สุดท้ายนี้ Consorti คาดการณ์ว่า เมื่อตลาดอนุพันธ์เติบโตขึ้น Bitcoin จะก้าวตามรอยหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ซึ่งการเติบโตนี้จะช่วยดึงปริมาณการซื้อขายมหาศาลระดับหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ Bitcoin และสร้างโอกาสใหม่ในตลาดคริปโต

ที่มา:cointelegraph