เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติโลกของเราอย่างรวดเร็ว โดย ChatGPT มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านคนภายในเวลาเพียงสองเดือน และ Nvidia ก็มีรายได้สูงถึง 32,800 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่สามของปี 2024 ซึ่ง AI ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดวิทยาศาสตร์ แต่เป็นความจำเป็นทางธุรกิจ และมีส่วนสำคัญในเศรษฐกิจของเรา
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การมีส่วนร่วมในชั้นเศรษฐกิจของ AI ยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับหลาย ๆ คน นี่คือจุดที่ AI Finance (AI-Fi) มีโอกาสเปลี่ยนแปลงกฎของเกม
AI-Fi เป็นกรอบทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ AI เข้ากับการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ซึ่งทำให้การเข้าถึงสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น GPU หรือข้อมูลเป็นไปได้ง่ายขึ้น , ช่วยสร้างกระแสรายได้ใหม่ ในขณะเดียวกัน ก็ขับเคลื่อน DeFi ด้วยเอเจนต์ และเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับการเสริมพลังจาก AI
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชุมชนการเงินแบบ decentralized ได้สร้างรากฐานที่ทำให้ AI-Fi สามารถเกิดขึ้นได้ วิธีการพัฒนา DeFi และโครงสร้างพื้นฐานของมัน เช่น การให้กู้ยืมสินทรัพย์บนเครือข่ายบล็อกเชน ทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับตัวได้สำหรับสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม และแบบอื่น ๆ
การ Tokenization ในฐานะกระบวนการนำสินทรัพย์นอกเชนในโลกแห่งความจริงมาสู่บล็อกเชน ได้ปูทางให้สินทรัพย์อื่น ๆ เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2023 สินทรัพย์ในโลกแห่งความจริงที่ถูก Tokenization โดยเฉพาะกองทุนตลาดเงิน เป็นตัวอย่างของการผสมผสานสินทรัพย์ที่ไม่ใช่คริปโตเข้ากับเศรษฐกิจออนเชน
BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก ครองส่วนแบ่งตลาดคริปโต 22% ด้วยกองทุนตลาดเงินที่ทำการ Tokenization ตนเองโดยแปลงเป็น โทเค็น BUIDL ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญ สำหรับการนำ RWA มาใช้ใน TradFi การใช้โครงสร้างพื้นฐาน DeFi สำหรับสินทรัพย์ที่แปลงเปลี่ยนกลายเป็นโทเค็นได้จุดไฟในกระแสหลัก โดยมียอด TVL เกิน 10 พันล้านดอลลาร์ แต่นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ทำความเข้าใจเศรษฐกิจ AI ที่ถูก Tokenization
รายได้ของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกคาดว่าจะพุ่งถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 ทำให้เศรษฐกิจ AI กลายเป็นภาคส่วนสำคัญสำหรับการนำเทคโนโลยี Tokenization มาใช้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่น่าทึ่งนี้มักซ่อนปัญหาสำคัญเอาไว้ เช่น การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งไม่สามารถเข้าถึงโอกาสในตลาดนี้ได้ เนื่องจากขาดทรัพยากรในการขยายตัว
ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและการขาดแคลนตลาด AI ที่พร้อมใช้งานทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ใช้กลุ่มค้าปลีกและธุรกิจขนาดเล็กยังเข้าถึงโอกาสได้ยาก ทำให้ศักยภาพในการเติบโตของรายได้ในอุตสาหกรรมนี้ถูกจำกัด
นี่คือจุดที่บล็อกเชนและ Tokenization เข้ามามีบทบาทสำคัญ ด้วยการนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น พลังประมวลผล ข้อมูล และบริการ AI มาแปลงเป็นโทเค็นบนเชน ช่วยสร้างตลาดที่มีสภาพคล่องและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถลงทุนและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น AI-Fi ยังช่วยให้ทรัพยากรที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถซื้อขายได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ เช่น การ Tokenize GPU, ข้อมูลการฝึกอบรม หรือโมเดล AI
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจ AI เข้าถึงแหล่งทุนใหม่ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจ AI ได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน :
- พลังการประมวลผล: การประมวลผล GPU สามารถถูก tokenized และแลกเปลี่ยนได้ ช่วยทำให้ ผู้ให้บริการการประมวลผล สามารถปรับขนาดได้ ในขณะที่เปิดเผยให้ผู้ใช้รับรู้กระแสเงินสดจาก AI
- ข้อมูลและโมเดล: ข้อมูลการฝึกอบรมและโมเดล AI แสดงด้วยโทเค็น สร้างกระแสรายได้ใหม่ ด้วยตัวอย่างของ ORA ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่ tokenized โมเดล AI โดยใช้มาตรฐาน ERC-7641
- บริการ AI: API และบริการคลาวด์ สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถในการเขียนโปรแกรมของสัญญา smart contracts ซึ่งการ Tokenization ของเอเจนต์ AI ทำให้สามารถสร้างรายได้ จากมูลค่าที่สามารถดึงออกมาได้
Financial Rails สำหรับ Value Chain ของ AI
การ Tokenization บนพื้นฐานบล็อกเชน ถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้สินทรัพย์สามารถซื้อขายได้ ตั้งโปรแกรมได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เป็นไปไม่ได้ในระบบการเงินแบบดั้งเดิม บล็อกเชนเองควรได้รับการมองว่า เป็นรางรถไฟทางการเงินสำหรับตลาดใหม่เหล่านี้ ซึ่งช่วยให้ :
- สภาพคล่องดีขึ้น: สินทรัพย์ เช่น GPU ไม่สามารถแบ่งแยกได้ แต่ทำให้การแบ่งส่วนเป็นคุณสมบัติของการ Tokenization ที่น่าสนใจ
- แอปพลิเคชัน DeFi ที่สามารถประกอบได้: สินทรัพย์ AI ที่ถูก tokenized และได้รับการสนับสนุนด้วยกระแสเงินสดจริง ทำให้เกิดโทเค็นที่สร้างผลตอบแทน ซึ่งสามารถรวมเข้ากับ DeFi ได้อย่างง่ายดาย ในฐานะหลักประกัน
- การซื้อขายในตลาดรอง: สินทรัพย์ AI บางอย่าง ต้องมีการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ในสัญญา smart contract ทำให้การซื้อขายในตลาดรองสามารถทำได้อย่างราบรื่น
เหตุใด AI-Fi จึงมีความสำคัญต่อสกุลเงินดิจิทัล
ตัวเลขไม่เคยโกหก การเติบโตของ AI สร้างโอกาสที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สำหรับหลายคน การประมาณการแสดงให้เห็นถึงมุมมองเชิงรุกสำหรับองค์ประกอบต่าง ๆ ของ value chain AI ด้วยตัวอย่างของศูนย์ข้อมูลที่คาดว่า จะเติบโตที่ CAGR 12% ถึง 15% ระหว่างนี้ถึงปี 2030
ตัวเลขเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ภาคส่วนนี้จะมีกระแสเงินสดที่แข่งขันได้มาก ด้วยเหตุนี้ AI-Fi ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ จึงมีเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่จับต้องได้ โดยนำมันเข้าสู่ระบบบล็อกเชน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและลงทุนได้
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อีกมากมายสำหรับ SMEs และองค์กรต่างๆ ในการใช้ AI-Fi เพื่อสร้างรายได้จากข้อมูล และโมเดลของตนเอง หรือหาแหล่งเงินทุนทางเลือกเพื่อขยายธุรกิจ การสร้างตลาดใหม่ที่มุ่งเน้น AI-Fi ช่วยให้นักพัฒนา AI และนักลงทุนมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจ AI แบบ tokenized และด้วยวิสัยทัศน์ของWeb3 ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว แนวคิดของ AI-Fi ก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
AI-Fi กำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
AI-Fi คือ การผสมผสานระหว่างสองเทคโนโลยีสุดเจ๋ง AI ที่มีอิทธิพลต่อหลายอุตสาหกรรม กับบล็อกเชนที่ทำหน้าที่เป็นระบบการเงิน ช่วยเปลี่ยนบริการ AI อย่างโมเดล Machine Learning ให้กลายเป็นสิ่งที่โปร่งใสและตั้งโปรแกรมได้ แถมยังทำให้เราสามารถสร้างรายได้ผ่านระบบ DeFi ได้ง่ายขึ้น
แม้ว่าตอนนี้แนวคิด AI-Fi จะยังใหม่อยู่ แต่ก็ใช้ประโยชน์จาก DeFi ที่มีอยู่แล้วและแนวทางโทเค็นไนซ์สินทรัพย์โลกจริง (RWA) เพื่อช่วยแก้ปัญหาใหญ่ในวงการ AI ทำให้เศรษฐกิจ AI เข้าถึงง่ายขึ้น นี่แหละคืออีกก้าวของ Web3 ที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
- ที่มา : forbes
- ที่มาภาพ : cryptoblogs